ผู้ใช้งบการเงิน ส่วนใหญ่เมื่อต้องการจะอ่านงบแล้ว ก็ต้องเริ่มถามคำถามแรกเลยคือ กิจการที่เรากำลังศึกษานั้น เป็นกิจการที่ประกอบธุรกิจประเภทอะไร ลักษณะของธุรกิจแบบนี้มีสินทรัพย์อะไรบ้าง มากน้อยเพียงใด และหนึ่งบัญชีที่เป็นวงจรที่จะทำให้เกิดรายได้คงหนีไม่พ้นบัญชีสินค้าคงเหลือ หรือ Inventory คือ จุดเริ่มต้นของการก่อให้เกิดรายได้ในธุรกิจของเรานั่นเอง
บัญชีสินค้าคงเหลือ หรือ Inventory คืออะไร
สินทรัพย์ซึ่งมีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้
- สินทรัพย์ที่ถือไว้เพื่อขาย ตามลักษณะในการประกอบธุรกิจตามปกติของกิจการ (Finished Goods : FG)
- สินทรัพย์ที่อยู่ในระหว่างกระบวนการผลิต (Work in process : WIP)
- สินทรัพย์ที่อยู่ในรูปของวัตถุดิบ วัสดุที่มีไว้เพื่อใช้ในกระบวณการผลิตสินค้า หรือให้บริการ (Raw Materials : RM)
- ต้นทุนงานให้บริการส่วนที่กิจการยังไม่ได้รับรู้เป็นรายได้
ถึงทราบเพียงลักษณะของสินค้าคงเหลือแล้วก็คงยังไม่พอที่จะทราบถึงที่มาของมูลค่าที่แสดงในบัญชี จะต้องทราบถึง การรับรู้ต้นทุนสินค้าคงเหลือ และวิธีการคำนวณของสินค้าคงเหลือด้วย
อยากเข้าใจความหมายของสินค้าคงเหลือมากขึ้นและวิธีการคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลืออ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่:
ประเด็นสำคัญ ต้องรู้ สินค้าคงเหลือ คืออะไร?
การคำนวณต้นทุนสินค้าคงเหลือ
เมื่อทราบถึงความหมายของ Inventory คืออะไร วัดมูลค่าอย่างไรและคำนวณต้นทุนสินค้าเรียบร้อย ก็นำตัวเลขที่คำนวณได้ไปจัดทำงบการเงินได้เลยค่ะ
แล้วสิ่งที่เราคำนวณได้นั้น จะอยู่ตรงไหนของแต่ละงบการเงินกันนะ และสินค้าคงเหลือมี Ratio ที่เกี่ยวข้อง มาใช้วิเคราะห์อะไรได้บ้าง
1. อยู่ตรงไหนในงบแสดงฐานะการเงิน
งบแสดงฐานะการเงิน คืองบที่แสดงถึงโครงสร้างทางการเงินของบริษัท โครงสร้างดังกล่าว คือ สินทรัพย์ หนี้สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น
สมการในการอ่านงบแสดงฐานะการเงิน คือ
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของผู้ถือหุ้น
บัญชีสินค้าคงเหลือจะจัดอยู่ในหมวดของสินทรัพย์
หมวดของสินทรัพย์ก็จะแบ่งเป็น สินทรัพย์หมุนเวียน และสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน
ด้วยลักษณะของสินค้าคงเหลือเป็นบัญชีสินค้าที่มีไว้เพื่อขาย อยู่ภายใต้แนวคิดที่ว่า สินค้าจะถูกนำขายออกได้ภายใน 1 ปี เพราะฉะนั้นจึงถูกจัดอยู่ที่สินทรัพย์หมุนเวียน ตามภาพประกอบค่ะ

2. อยู่ตรงไหนในงบกำไรขาดทุน
งบกำไรขาดทุน คือ งบแสดงผลการดำเนินงานของกิจการ ในระหว่างช่วงระยะเวลาหนึ่งตามรอบระยะบัญชีของกิจการ โครงสร้างงบกำไรขาดทุน คือ รายได้ ค่าใช้จ่าย และกำไร (ขาดทุน)
สมการในการอ่านงบแสดงฐานะการเงิน
รายได้ – ค่าใช้จ่าย = กำไร (ขาดทุน)
บัญชีสินค้าคงเหลือ เมื่อขายสินค้าได้แล้ว รายได้เกิดขึ้นแล้วทำให้สินค้าคงเหลือต้องเปลี่ยนสถานะ จากที่อยู่บัญชีฝั่งสินทรัพย์ต้องเปลี่ยนเป็นบัญชีฝั่งต้นทุนขาย อยู่ในหมวดของค่าใช้จ่ายในกำไรขาดทุน เพื่อให้สอดคล้องกับรายได้ที่เกิดขึ้น

3. หมายเหตุประกอบงบการเงิน บอกอะไรบ้าง
หมายเหตุประกอบงบการเงิน คือ รายงานที่แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมจากงบการเงิน เช่น นโยบายการทำบัญชี ข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ได้แสดงอยู่ในงบการเงิน เช่น สินทรัพย์ที่นำไปเป็นหลักประกัน หรืออัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
ในส่วนของสินค้าคงเหลือ ก็จะแสดงให้เห็นเกี่วกับประเภทของสินค้าคงเหลือ ว่าปัจจุบันนั้น คงอะไรคงเหลือบ้าง

ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน เพื่อนๆอาจจะหาไม่เจอว่าอยู่หน้าไหน เรียงยังไง สามารถอ่านบทความนี้ได้เพิ่มเติมนะคะ
วิธีอ่านหมายเหตุประกอบงบการเงินแบบไม่งง
4. Ratio ที่เกี่ยวข้องและการวิเคราะห์
เมื่อเรารู้จักงบการเงินแล้ว ว่ามีงบอะไรบ้าง แล้วบัญชีสินค้าคงเหลืออยู่ตรงไหน เราก็มาทำการวิเคราะห์กันค่ะ เครื่องมือในการวิเคราะห์ หรืออ่านงบการเงิน ก็จะเป็น Ratio ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีสินค้าคงเหลือของเราไปดูกัน
Inventory Turnover Ratio อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ
คือ อัตราส่วนที่จะวัดความสามารถในการขายสินค้าคงเหลือ จากการเปลี่ยนแปลงสินค้าคงเหลือในช่วงเวลาหนึ่งรอบบัญชี เพื่อที่กิจการจะได้คำนวณว่า ใช้เวลากี่วันในการขายสินค้า
สูตรการคำนวณ
อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ = ต้นทุนขาย / สินค้าคงเหลือถัวเฉลี่ย
สินค้าคงเหลือถัวเฉลี่ย = ( สินค้าคงเหลือต้นงวด + สินค้าคงเหลือปลายงวด ) / 2
Inventory Turnovers มาก หมายถึง ความสามารถของกิจการในการขายสินค้าคงเหลือสูงหรือมีสินค้าคงเหลือน้อย มูลค่าที่แสดงในบัญชีสินค้าคงเหลือมีมูลค่าน้อย ทำให้รักษาสภาพคล่องให้กับกิจการได้ และยังมีความเสี่ยงในเรื่องของสินค้าค้างนานต่ำอีกด้วย
Inventory Turnovers น้อย หมายถึง ความสามารถของกิจการในการขายสินค้าคงเหลือต่ำหรือมีสินค้าคงเหลือมาก มูลค่าที่แสดงในบัญชีสินค้าคงเหลือมีมูลค่ามากส่งผลเสียต่อสภาพคล่องของกิจการ และยังมีความเสี่ยงในเรื่องของสินค้าค้างนานสูงอีกด้วย
ลองมาดูตัวอย่างการคำนวณกันค่ะ
2563 | 2564 | 2565 | 2566 | |
ต้นทุนขาย | 100,000 | 200,000 | 150,000 | 180,000 |
สินค้าคงเหลือต้นงวด | 30,000 | 40,000 | 30,000 | 50,000 |
สินค้าคงเหลือปลายงวด | 40,000 | 30,000 | 50,000 | 30,000 |
ปี 2564 อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ | = ต้นทุนขาย / สินค้าคงเหลือถัวเฉลี่ย |
= 200,000 / ((40,000+30,000)/2) | |
= 200,000 / 35,000 | |
= 5.71 เท่า |
ปี 2565 อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ | = ต้นทุนขาย / สินค้าคงเหลือถัวเฉลี่ย |
= 150,000 / ((30,000+50,000)/2) | |
= 50,000/40,000 | |
= 3.75 เท่า |
อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ | |
ปี 2564 | 5.71 เท่า |
ปี 2565 | 3.75 เท่า |
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ ของปี 2564 เท่ากับ 5.71 เท่า และปี 2565 เท่ากับ 3.75 เท่า อัตราหมุนเวียนสินค้าคงเหลือยิ่งมีค่าสูงยิ่งดี ทำให้ปี 2564 มีความสามารถของกิจการในการขายสินค้าคงเหลือและรักษาสภาพคล่องของกิจการได้ดีกว่าปี 2565 และมีความเสี่ยงในเรื่องของสินค้าค้างนานต่ำกว่าปี 2565 อีกด้วย
บัญชีสินค้าเป็นบัญชีที่สำคัญในงบการเงิน แล้วเราก็รู้แล้วว่า ในงบการเงินนั้นสามารถดูบัญชีนี้ได้จากไหนบ้าง พอทราบถึงที่มาตัวเลขแล้ว เราก็สามารถจะนำตัวเลขนั้นไปวิเคราะห์ต่อ แล้วทำการเปรียบเทียบได้ด้วยค่ะ ว่าแต่ละปี ผลประกอบการของกิจการนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ดีหรือไม่ดี ปีไหนดีกว่ากัน เมื่อเราทราบถึงข้อมูลในอดีต เราก็สามารถที่จะวางแผน บริหารงาน เพื่อให้ Ratio ในอนาคตมีสัญญาณที่ดีขึ้นได้ด้วยค่ะ แค่อ่านงบการเงินและวิเคราะห์งบการเงินเป็นก็เป็นประโยชน์ต่อการทำงานมากเลยค่ะ
อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่นี่
Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y