ทักษะครีเอทีฟอยู่กับทุกๆสาขาอาชีพอยู่แล้ว หลายคนอาจจะปฎิเสธว่างานบัญชีกับครีเอทีฟจะเข้ากันได้อย่างไร เพราะคนละสายงาน คนละประเภทงานกันเลยไม่มีทางที่จะไปด้วยกันได้ แต่ขอบอกก่อนว่า ทักษะนี้มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวหน้าทางวิชาชีพได้
ทักษะครีเอทีฟ ไม่ต่างการทักษะของการพัฒนาตัวเอง เพราะกระบวนการทำงานมีความคล้ายคลึงกัน คือ คิด วิเคราะห์ และพัฒนาต่อยอด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
และบัญชีต้องใช้ทักษะครีเอทีฟกับอะไร ?
ต้องบอกว่า สามารถใช้ได้หลากหลายมาก อาทิเช่น การจัดการงาน การพัฒนาระบบ และการจัดสรรรูปแบบการทำงาน เป็นต้น หากเราทราบถึงปัญหาที่วุ่นวายของระบบงานภายในทีม เราสามารถวางแผน คิดวิเคราะห์ และสร้างสรรค์ให้เกิดระบบใหม่ที่ดีขึ้นได้ หรือแม้กระทั่ง หากเรามีระบบการตรวจสอบที่หล่ะหลวม เราสามารถออกแบบระบบใหม่ ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น โดยการวางฟังก์ชั่น ในระบบที่จำเป็นในการทำงาน เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าใช้ได้ง่าย และทำให้เราลดภาระการทำงานบางส่วนออกไปโดยไม่จำเป็น
ไม่เพียงเท่านั้นการที่เรามีทักษะครีเอฟทีฟ และเอามาต่อยอดในการทำงาน จะส่งผลให้เรากลายเป็นคนรอบรู้ แถมยังมีคลังข้อมูลความรู้ขนาดใหญ่ในหัวอีกด้วย
ยิ่งเรามีคุณสมบัติตรงนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เราทำงานได้สะดวกมากยิ่งขึ้นเพราะเราจะนำความรู้ที่สดใหม่ในคลังของเรา มาใช้จนเกิดประโยชน์และเกิดผลลัพธ์ที่ดีในที่สุด
ในขณะที่เรานำประโยชน์เหล่านั้นมาพัฒนาในงานตัวเอง แน่นอนว่าหลายๆคนจะเล็งเห็นถึงศักยภาพในการทำงานของเรามากขึ้นแน่นอน ซึ่งในเวลาเดียวกันทักษะครีเอทีฟไม่เพียงพอ ต้องกล้าคิด กล้าทำ และกล้าแสดงออก เนื้องานของเราจึงจะบรรลุผล และยังส่งต่อให้กับคนรุ่นต่อๆไปได้อีกด้วย
แหล่งการรับข้อมูลที่ง่ายที่สุดในปัจจุบัน คงไม่พ้นโซเชียลมีเดีย มีโทรศัพท์เพียงเครื่องเดียว ก็สามารถค้นหา และเสพความรู้ดีๆได้ หาเวลาทบทวนความรู้เก่า และหมั่นเติมความรู้ใหม่ ความก้าวหน้าในสายอาชีพของเราไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน