ไลฟ์สไตล์

แนวทางพิชิตความจำเจของงานบัญชีให้กลายเป็นความท้าทายใหม่

แนวทางพิชิตความจำเจของงานบัญชีให้กลายเป็นความท้าทายใหม่

จริงๆ แล้วทุกงาน ทุกอาชีพมีความจำเจอยู่ทั้งนั้น แต่ภายใต้ความจำเจนี้ก็จะมีความท้าทายรอให้เราเข้าไปเจอมันอยู่ งานบัญชีที่คนภายนอกมองเห็นคงเป็นภาพที่นั่งทำงานเอกสารกองโต ไม่ได้พบเจอใคร ก้มหน้าอยู่กับเครื่องคิดเลขและพิมพ์เอกสารอย่างเคร่งเครียด ความเป็นจริงแล้วบริบทของนักบัญชีนั้นมีความซับซ้อนมากกว่านั้น เพียงแต่ว่าผู้คนภายนอกอาจจะยังไม่เคยรู้เท่านั้นเอง

ซึ่งนักบัญชีเองจำเป็นจะต้องเรียนรู้แนวทางนั้น เพื่อทำให้ตนเองสามารถใช้ชีวิตควบคู่กับงานนี้ได้ต่อไปอีก

1.ตอบคำถามตัวเองให้ได้

หากใครที่รู้สึกเบื่อหน่ายและรู้สึกว่างานที่ทำอยู่ช่างจำเจเสียเหลือเกิน ให้ตอบคำถามให้ได้ว่า เราเบื่องานเพราะอะไร ส่วนไหนที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้ ผู้คน เพื่อนร่วมงาน ระบบการทำงาน  หรือปัญหาในงานที่ถาโถมมาไม่หยุด  เราสามารถลิสต์สิ่งทำให้เรารู้สึกไม่ดีในงานออกมา ยิ่งเยอะยิ่งดี จะทำให้เราเห็นข้อมูลเป็นภาพรวมมากขึ้น หากว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนงานได้ ด้วยปัจจัยใดๆทั้งปวง ต้องเริ่มออกไปหาแรงบัลดาลใจใหม่ๆข้างนอกเวลางาน เช่น เรียนเสริมในสิ่งที่ชอบ ออกเที่ยว อ่านหนังสือ หรือดูหนังดีๆสักเรื่องเพื่อหาสิ่งใหม่ๆให้ชีวิตได้ผ่อนคลายและเติมเต็ม เพื่อวันทำงานเราจะได้มีพลังกลับมาทำงานใหม่อีกครั้ง

2.ให้มองงานเป็นเกม

หากวิธีการปรับตัวไม่ได้ผล ให้ลองมองเนื้องานที่เราทำ หรืออาชีพที่เราทำเป็นเกม เราคือผู้สวมบทบาทนี้ ต้องทำมิชชั่นให้คอมพลีทในแต่ละวัน เปรียบเสมือนการผ่านด่านเกมจากด่านง่ายๆไปด่านที่ยากขึ้นๆ อาจจะทำให้เราเล็งเห็นคุณค่าในตัวเองได้อีกเช่นกัน เพราะเมื่อเราผ่านสิ่งยากๆไปได้ แปลว่าเรามีความรู้เพิ่มขึ้น มีประสบการณ์เรื่องนั้นมากขึ้น และเก่งขึ้น ปิดท้ายวันด้วยรางวัลเล็กๆน้อยให้ตัวเอง เช่น ของกินอร่อยๆ หรือพาตัวเองไปสถานที่ดีๆ พักผ่อนหย่อนในหลังจากผ่านมิชชั่นโหดๆมาได้

3.ปรับสภาพแวดล้อมที่จำเจ เป็นความสุขมิติใหม่

ส่วนสำคัญอีกข้อที่ทำให้คนมักจะเบื่องาน คือสภาพแวดล้อมที่จำเจ เราสามารถปรับสภาพแวดล้อมนั้นได้ด้วยตัวเราเอง เริ่มจากการจัดโต๊ะ เปลี่ยนรูปหน้าจอเดสก์ท็อป วางรูปศิลปินที่ชอบบนโต๊ะทำงาน ปลูกต้นไม้เล็กๆ วางสิ่งของมงคลที่คอยปลอบประโลมใจไว้ใกล้ๆตัวเรา อาจจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้ ทำให้เรามีกำลังใจในการทำงาน และสามารถสร้างโอกาสใหม่ๆในงานได้อีก เพราะแรงมีแรงใจที่เกินร้อย มีพลังพร้อมรับมืองานด้านต่างๆ  ซึ่งเรียกกันว่า แรงดึงดูด เราอยากดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาหาเรา สภาพแวดล้อมเราต้องดีก่อน ซึ่งเราต้องเริ่มต้นด้วยตัวเรานั่นเอง

4.หาไอดอลในสายงาน

ไอดอลในการทำงานใครว่าไม่สำคัญ คนเหล่านี้จะเป็นต้นแบบของความสำเร็จให้เราเกิดความพยายามที่จะเป็นได้เฉกเช่นเดียวกันเขา ยิ่งเรามีเป้าหมายที่จะเป็นเหมือนเขา เราจะยิ่งกระตือรือร้น และสร้างแนวทางการบรรลุเป้าหมายได้ด้วยตัวเราเอง ซึ่งมนุษย์ทุกคนสามารถสร้างทางลัดความสำเร็จนี้ได้ด้วยตัวเองเช่นกัน ทางลัดที่ว่านี้คือ หนทางที่เหมาะสมกับเรา ตำแหน่ง หน้าที่การงาน องค์กรที่ตอบโจทย์ มีพื้นที่ให้เราแสดงความสามารถและเปิดโอกาสให้เราแสดงศักยภาพได้เต็มที่ นั่นคือทางลัดที่ทำให้เราถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น และจะไม่มีเวลาให้เราไปนึกถึงความจำเจ ความน่าเบื่อต่างๆ เราจะมองเห็นสิ่งนี้เป็นความท้าทาย และอยากจะให้ถึงวันที่ประสบความสำเร็จเร็วๆมากกว่า

การทำงานไม่ว่าจะอาชีพไหน ต้องเจอปัญหานี้กันทุกคน เราควรปรับมุมมอง ปรับความคิดของเราก่อนเป็นอย่างแรก จะช่วยให้เราเจอข้อดี และเล็งเห็นประโยชน์ที่จะได้รับในเนื้องานนั้นๆ  แต่ถ้าหากว่าเราไม่สามารถปรับอะไรได้อีกแล้ว การลาออกจากงานและไปหาพื้นที่ใหม่ๆที่เหมาะกับเราจริงๆ จะเป็นทางออกที่ดีกว่า การทนทำในสิ่งที่ไม่เป็นตัวเอง มันจะส่งผลถึงสุขภาพจิตใจ และสุขภาพกายของเราในระยะยาวแน่นอน ตัวเราจะเป็นผู้ตอบคำถามเหล่านี้ได้ดีที่สุด ชีวิตของเรา เราสามารเลือกแนวทางให้ชีวิตได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า