คนที่จบใหม่หลายคนที่ยังไม่ได้เริ่มทำงานอาจจะคิดว่าเมื่อทำงานไปแล้วจะเป็นตามที่คิด ได้เงินเดิมตามที่หวัง หรือเห็นรุ่นพี่ เพื่อนๆได้งานตรงตามสเป๊ก ก็คาดหวังไว้ว่างานของตัวเองจะเป็นไปในทิศทางที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ แต่ในทางกลับกันก็มีทั้งสิ่งที่ตรงตามคาดและนอกลู่นอกทางไปบ้างเช่นกัน เมื่อคาดหวังในหลายๆส่วนเข้าแล้ว เมื่อถึงเวลาทำงานจริงก็รู้สึกไม่สบายใจ เครียด วิตกกังวล เพราะไม่เหมือนกับสิ่งที่คิดเอาไว้ แต่ก็ยังไม่อยากลาออกจากงาน อยากได้ประสบการณ์ทำงาน หรือแม้แต่ยังไม่อยากเสี่ยงในการหางานในยุคนี้ก็คงจะเดินหน้าทำงานต่อไป แต่การทำงานให้มีความสุขนั้นก็คงเป็นเรื่องยาก เพราะงานไม่เหมือนกับที่คิด ครั้นจะปรับตัวก็ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร
เมื่องานบัญชีไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
สิ่งที่ควรทำอย่างแรกเมื่อรู้สึกว่า เราไม่เอ็นจอยและมีปัญหาเข้าแล้ว ก็ควรตั้งสติเพื่อวางแผนให้เราไปต่อได้ ไม่แน่ว่าการวางแผนครั้งนี้จะช่วยให้เราค้นพบสิ่งใหม่ๆที่ถูกใจในงานก็เป็นได้
แต่เราต้องแยกเป็นกรณีๆไป งานไม่ตรงตามที่คิดหรืองานไม่ตรงปกกันแน่ หากงานไม่ตรงตามรายละเอียดประกาศหางาน หรือไม่ตรงตามที่ HR บอก แล้วรู้วึกว่าเราสียประโยชน์มากกว่าได้ประโยชน์การเปลี่ยนงานก็ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ เช่น ให้ทำงานบัญชีพ่วงงานอื่นๆ ไม่ได้รับโอทีตามที่แจ้งไว้เมื่อทำงานล่วงเวลาตามเงื่อนไขที่ระบุตามการว่าจ้าง, สัมภาษณ์ตำแหน่งบัญชีแต่ตอนทำงานให้ทำตำแหน่งอื่น เป็นต้น นี่คือไม่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการตั้งแต่แรก แต่งานไม่ตรงตามที่คิด อาจจะเป็นในเชิงปริมาณงาน วัฒนธรรมองค์กร ผู้คน ระบบระเบียบการทำงาน การเติบโตทางรายได้และตำแหน่ง ให้พึงคิดตามหลักความเป็นจริงเสมอว่า ไม่ว่าจะคำบอกเล่า หรือ เรื่องเล่าต่างๆจากผู้คน ย่อมมีทั้งความจริงและไม่จริงทั้งหมด ให้เรามองโลกตามวิถีปกติว่า ไม่ว่าจะทำงานอะไร หรือเป็นใคร ย่อมต้องเผชิญทั้งเรื่องสุขทุกข์เป็นปกติ เพียงแต่บางคนเขาพยายามนำเสนอแต่ด้านดีก็เท่านั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าเบื้องหลังของพวกเขาอาจจะทำงานหนัก และเจอความกดดันที่สูงกว่าเรามากแค่ไหน ฉะนั้นแล้วให้เข้าใจคำว่างานเสียใหม่ งานไม่มีคำว่าพอดี บางวันงานมาก บางวันงานน้อย บางวันงานผิดพลาด บางวันงานดีจนได้รับคำชม นั่นคือสิ่งที่ต้องเจอเมื่อต้องทำงาน
แต่ใครที่กำลังเผชิญปัญหานี้อยู่ โดยเฉพาะน้องใหม่ ก็ยังไม่สายที่จะปรับตัว ตอนเรีบยบัญชีชอบเอาซะมากๆ พอทำงานช่างต่างเหลือเกิน เราเพียงแต่ต้องหาจุดร่วมใหม่ ต้องพยายามค้นหาจุดที่จะคลิกกับงานเพื่อไปต่อด้วยกันให้ได้ เพราะโอกาสในการทำงานก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ มีหลายคนที่อยากได้โอกาสนี้ เมื่อเราเป็นผู้ที่ได้รับโอกาสนี้มา ควรทำให้เต็มที่ที่สุด
5 สิ่งที่ควรทำเมื่อเผชิญปัญหางานไม่ตรงตามที่คิด
1. ปรับความคิด
อย่างแรก ควรปรับความคิดว่า ทุกอย่างมันไม่ได้แย่ไปเสียหมด เราแน่ใจได้อย่างไรว่าไม่มีเรื่องดีซ่อนอยู่เลย เราเลยสังเกตทั้งหมดแล้วหรือยัง งานเยอะ กดดังสูง แต่เพื่อนร่วมงานและหัวหน้าซัพพอร์ตดี ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกว่าคนอื่นๆ หรือแม้แต่วัฒนธรรมองค์กรที่เคร่งเครียดมาก วินัยจัด แต่เมื่อถึงเวลาให้โบนัส ก็ได้รับสมน้ำสมเนื้อ และปรับฐานเงินเดือนให้ตามสัญญา ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกเช่นกัน การปรับความคิดในเรื่องเล็กๆ หรือเรื่องราวข้างทางก็อาจจะทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้โชคร้าย และไม่ได้เจอสิ่งที่แย่ขนาดนั้น
2. หาข้อดีในงานบัญชี
งานบัญชีเป็นงานที่ปริมาณงานมหาศาล งานยุ่ง งานเดือด งานเร่งตลอดเวลา แต่เราก็หาข้อดีในงานได้ง่ายกว่าคนอื่นๆ อย่างเช่น เป็นงานที่อัตราการตกงานต่ำ, อัตราเงินเดือนมีแน้วโน้มที่สูงกว่าสายงานอื่นๆ, มีโอกาสเติบโตและมั่นคงไม่แพ้ใคร, อุตสาหกรรมของโลกทุกๆประเภทต้องการนักบัญชี, ต่อยอดในต่างประเทศได้ด้วยการศึกษาต่อ มีโอกาสได้ถือวีซ่าผู้พำนักถาวรในประเทศ(Permanent Resident VISA) โดยเฉพาะออสเตรเลีย ยังขาดแคลนสูง นี่แหละคือข้อดีที่หลายคนอาจจะมองไม่เห็น ว่างานบัญชีนั้นมีข้อดีและได้เปรียบอีกมายมาย ต่อยอดได้ไวอีกด้วย
3. สร้างเป้าหมายร่วมไปกับงาน
เราจะทำงานได้มีความสุขมากขึ้นก็ควรตั้งเป้าหมายร่วมกับงาน อย่างการเติบโตของตำแหน่ง การเก็บเกี่ยวประสบการณ์ระหว่างทาง การเก็บชั่วโมง การสอบ การวางอนาคตในระยะใกล้และไกล หากเราสามารถสร้างเป้าหมายไปด้วยกันกับงานได้ การทำงานในทุกๆวันจะมีความหมายมากกว่าที่เคยเป็น เพราะเรารู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่และทำไปเพื่ออะไร
4. นำงานและสิ่งที่ชอบรวมไปด้วยกัน
อย่างในยุคนี้คือยุคที่เปิดกว้างและเข้าถึงกันได้ง่าย หากเป็นคนที่ชอบและสนใจโซเชียลมีเดีย ก็อาจจะนำความรู้ที่มีปละประสบการณ์ของตัวเองถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดีย โดยการเป็นคอนเท้นต์ครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มที่ตนเองถนัด รับงานรีวิว รับงานโฆษณา ก็ช่วยให้มีรายได้เสริมหากเป็นชอบพูดคุยก็สามารถทำ Podcast เป็นวิทยากร เป็นพี่แนะแนว หรือ ทำช่อง Youtube พูดคุยกับผู้คนในแวดวงบัญชี เพื่อให้ความรู้ผู้คนที่สนใจ ถือเป็นประโยชน์กับผู้คน
หลายคนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม หรืออยากได้รายเสริมเพื่อนำไปใช้จ่ายในชีวิต แต่ติดที่ว่าไม่มีทักษะอื่นๆร่วมด้วยเลย ไม่รู้จะเริ่มงานเสริมนี้อย่างไร แนะนำอาชีพเสริมของนักบัญชี มีอะไรบ้าง
5. แบ่งเวลาระหว่างงานกับความชอบให้ชัดเจน
เมื่อลองทุกวิธีแล้วยังรู้สึกไม่โอเคอยู่ ก็อาจจะต้องแบ่งเวลาให้ชัดเจนไปเลย โดยการที่ตั้งเป้าหมายให้งานเริ่มและเสร็จภายในกี่โมง โดยที่ไม่ต้องนำมาทำนอกเวลา หรือรับผิดชอบในวันหยุด เพื่อที่จะเอาเวลาว่างเหล่านั้นไปทำสิ่งที่ชอบและสนใจ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องจัดระเบียบตัวเองให้ดี เข้าใจความสำคัญของงาน สามารถจัดการงานส่วนของตัวเองได้อย่างราบรื่น เพื่อที่จะไม่ให้งานไปรบกวนชีวิตส่วนตัว ก็อาจจะช่วยให้เรารู้สึกว่างานไม่ได้เป็นภาระ แต่เป็นหน้าที่ที่ต้องทำ
และอย่าลืมว่าหากพบปัญหาในงาน หรือไม่เข้าใจสิ่งใดควรแจ้งผู้บังคับบัญชาให้ทราบทันที เพื่อให้สิ่งนั้นถูกแก้ไข แทนที่จะเก็บมาใส่ใจจนกลายเป็นความทุกข์ อย่ากลัวที่จะถาม อย่ากลัวที่จะต้องถูกตำหนิ เพราะทุกคนย่อมต้องเจอเฉกเช่นเดียวกัน ทุกคนสามารถทำผิดพลาดได้ ความเป็น human error เกิดได้ทุกๆเวลา เพียงแค่เราต้องเท่าทันมัน เพื่อไม่ให้ก่อความเสียหายที่รุนแรง
เมื่องานบัญชีถึงทางตัน ผันตัวเองเป็นอะไรได้อีกบ้าง ? หากจะบอกว่าคนรุ่นใหม่ รวมไปถึงคนรุ่นเก๋าในสายงานบัญชีเองก็อาจจะทำงาน มาสักระยะ จนมีความคิดที่ว่า เราสามารถทำอาชีพอื่นนอกจากบัญชีได้ไหมนะ แล้วหน้าที่การงานที่เหมือนจะถึงทางตัน เราจะเปลี่ยนอาชีพไปทำอะไรดี จะมีงานไหนที่เราสามารถทำได้อีกบ้าง ที่ยังคงมีกลิ่นอายของงานบัญชี และได้ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาให้เกิดประโยชน์ เห็นแบบนี้แล้วก็ต้องตอบอย่างชัดเจนได้เลยว่า มีแน่นอน
อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y
