เมื่อเราเป็นนักบัญชีมืออาชีพแล้วนั้น แน่นอนว่าโอกาสและสิ่งต่างๆรอบตัวก็พร้อมที่จะรองรับเราเสมอ เพราะใครๆก็อยากได้นักบัญชีมืออาชีพเข้ามาทำงานร่วมกับองค์กรทั้งนั้น อีกทั้งการเป็นมืออาชีพในสายงานจะช่วยให้เราเติบโตอย่างก้าวกระโดดและมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางที่ช่วยให้เราสามารถสร้างรายได้ในช่องทางนอกเหนืองานหลักได้มากมายเช่นกัน
และเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เราใกล้จะถึงความเป็นมืออาชีพแล้ว เราสามารถวัดได้จากอะไรบ้าง หากไม่มีคนรอบข้างบอก เราเองก็สามาระประเมินเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ดังนี้
1.เข้าใจกระบวนการทำงานอย่างลึกซึ้ง
งานบัญชีเป็นงานที่มีรายละเอียดมากมายทั้งเนื้องานหลักและงานเสริมอื่นๆที่คอยแทรกอยู่ตลอดเวลา นักบัญชีเองเป็นอีกอาชีพที่มีงานเยอะล้นมือ ล้วนเป็นงานที่ละเอียดมาก ส่วนใหญ่มีข้อมูลสำคัญแทบทั้งนั้น หากเราเข้าใจกระบวนการทำงานอย่างลึกซึ้งทุกๆขั้นตอน รู้ถึงระยะเวลาในการทำแต่ละส่วน อีกทั้งยังสามารถจัดการชิ้นงานทั้งหมดได้อย่างดีและเข้าใจแม้กระทั่งขั้นตอนเล็กๆที่ซ่อนอยู่ในงาน สามาระประยุกต์วิธีการทำงานให้ง่ายขึ้นได้ ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อสำคัญที่บอกว่า คุณใกล้ความเป็นมืออาชีพทุกทีแล้ว
2.มีกระบวนการทำงานที่ดี
กระบวนการทำงานที่ดี หมายถึง การจัดระเบียบงานอย่างดี มีแบบแผนและมีความชัดเจนในทุกๆขั้นตอนการทำงาน ซึ่งหลายคนมักจะตกหลุมพลางของงานคือ ไม่สามารถแยกแยะความสำคัญของงานได้ หากเรามีกระบวนการทำงานที่ดี สามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระบบจะเป็นส่วนเสริมในความเป็นมืออาชีพ เพราะมืออาชีพนั้นต้องมีคุณสมบัติการจัดการกระบวนการทำงานที่ดีด้วย
3.แก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดของตนเองได้ดีและรอบคอบขึ้น
ความผิดพลาดในการทำงานสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้แต่ผู้บริหารระดับสูง หรือผู้ที่เป็นมืออาชีพก็ตาม แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดแล้ว เราสามารถจัดการความผิดพลาดนั้นได้ ครั้งต่อไปมีการจัดการที่ดีขึ้น และมีความรอบคอบมากขึ้นจากเดิม ส่งผลให้ความผิดพลาดลดน้อยลงและทำให้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4.เข้าใจการทำงานในทุกสถานการณ์
ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแค่ไหน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากการทำงานอะไรก็ตาม ผู้ที่เป็นมืออาชีพนั้นจะเข้าใจและสามารถอยู่ร่วมกับสถานการณ์นั้นได้อย่างดี และไม่สร้างความหนักใจให้กับผู้คนรอบข้างจนเกิดความกังวล หรือความเคร่งเครียดตามบริบทเหตุการณ์ เรียกได้ว่า เอาอยู่ทุกสถานการณ์นั่นเอง แต่ข้อนี้ต้องบอกก่อนกว่า ทุกคนไม่จำเป็นต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้กับตัวเอง เพียงแต่ต้องเข้าใจว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นเพราะอะไร มีทางแก้ไขอย่างไรได้บ้าง และอยู่ร่วมกับเหตุการณ์ที่เคร่งเครียด ขับขันได้ โดยที่เข้าใจความเป็นธรรมชาติของเหตุการณ์นั้นๆ โดยการมองด้วยความเป็นจริงนั่นเอง
5.ทำงานลุล่วงด้วยดี และมีประสิทธิภาพ
ผู้ที่เป็นมืออาชีพส่วนมากจะทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพสูง เมื่อเทียบกับสัดส่วนของงานแล้ว งานส่วนใหญ่ลุล่วง ผ่านไปได้ด้วยดี และมีประสิทธิภาพ เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน นี่จะเป็นอีกสัญญาณที่บ่งบอกว่า เราใกล้จะเป็นมืออาชีพอย่างเต็มตัวแล้ว
อย่างไรก็ดี การเป็นมืออาชีพมีองค์ประกอบมากมาย หลากหลายนิยามแต่ข้อมูลทั้ง 5 ข้อนี้เป็นองค์ประกอบที่สามารถวิเคราะห์และวัดผลได้ด้วยตัวเอง ความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรอให้ใครบอกว่า เราเป็นมืออาชีพแล้วหรือยัง เราสามารถสร้างตัวเองให้เป็นมืออาชีพได้ เพราะส่งผลดีในอนาคตอย่างแน่นอน เมื่อเราทำงานได้ดี ตรงตามกำหนดเวลา และตรงตามนโยบายที่ผู้ประกอบการ หรือองค์กรแต่งตั้งไว้ มีความซื่อสัตย์สุจริต มีจรรณยาบรรณที่ดี ถือว่าเราก็เป็นมืออาชีพอีกคนหนึ่งในสายงานแล้ว