นักบัญชีมือใหม่, ภาษี

ข้อควรรู้ วิธีการตรวจสอบผู้ประกอบการรายชื่อ Vat ถ้าไม่เช็กกระทบอะไรบ้าง

วิธีการตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการจด VAT

การทำธุรกิจ เมื่อมีการซื้อ-ขายเกิดขึ้น รายการค้าเกิดขึ้นแล้ว เราจะพบว่ามีเอกสารหลายแบบเหลือเกิน เช่น ใบกำกับภาษีอย่างย่อ ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ บลาๆๆ

แต่รู้มั้ยคะว่าเอกสารอะไรที่ถ้าได้รับมาแล้วต้องเช็กให้ดีๆ เลย เพราะถ้าถูกแอบอ้าง ออกโดยคนที่ไม่มีสิทธิ์ออก บอกได้คำเดียวเลยว่า มีแต่ซวยกับซวย ซึ่งนั่นก็คือ “ใบกำกับภาษี” ค่ะ แล้วคนที่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีมีเพียงผู้เดียวเท่านั้น ก็คือ ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มค่ะ

สำหรับวันนี้ถ้านักบัญชีหรือเจ้าของธุรกิจคนไหนยังไม่มั่นใจว่าจะเช็กรายชื่อ Vat อย่างไร ผู้ประกอบการคนไหนจด Vat บ้างแนะนำให้ตามมาอ่านบทความนี้เลย

ผู้ประกอบการ Vat คืออะไร?

ต้องอธิบายก่อนว่า Vat ย่อมาจาก Value Added Tax หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม

กฎหมายระบุให้ร้านค้า ห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทที่มียอดขายเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (หรือบางกรณีเราเลือกจด VAT แม้ยอดขายไม่ถึง 1.8 ล้านบาทก็ได้ อันนี้เป็นทางเลือกที่ไม่ได้มีใครห้ามไว้ อ่านเพิ่มเติมจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ดีหรือไม่ได้ที่นี่)

ความแตกต่างของผู้ประกอบการ Vat กับผู้ประกอบการทั่วไป คือ การออกใบกำกับภาษีได้ และสิทธิในการเคลมภาษีซื้อ

สังเกตไหม เมื่อเราเข้าปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ หรือดีพาร์ทเม้นต์สโตว์ ในใบเสร็จที่ได้รับจะแจกแจง Vat 7% ด้วย นั่นเพราะเขาเป็นผู้ประกอบการ Vat ซึ่งถ้าเราบอกพนักงานว่า “ขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบในนามบริษัทนะ” ก็สามารถนำไปเคลมภาษีซื้อได้ค่ะ

เอาล่ะ พอจะเข้าใจเรื่องภาษีมูลค่าเพิ่มกันบ้างแล้ว แต่ยังมีอีกเรื่องที่อยากให้ทุกคนรู้ ก็คือ ภาษีขาย และภาษีซื้อค่ะ

Vat 7% มีทั้ง ภาษีขาย และภาษีซื้อ โดยก่อนจะส่งภาษีให้สรรพากรต้องนำภาษีขายมาลบภาษีซื้อก่อน หมายความว่า หากเดือนนั้น ๆ ผู้ประกอบการขายได้ 1,000,000 บาท แต่ซื้อมา 1,500,000 บาท เท่ากับ มีภาษีขาย 1,000,000 x 7% = 70,000 บาท มีภาษีซื้อ 1,500,000 x 7% =105,000 บาท

เมื่อคำนวณ ภาษีขาย – ภาษีซื้อ เท่ากับว่า เราก็จะได้ภาษีคืนมา 35,000 บาท แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครกล้าขอคืนนะ จะใช้เป็นเครดิตภาษีสำหรับเดือนถัดไปแทนจ้า

ผู้ประกอบการ Vat แตกต่างกับไม่จด Vat ยังไง?

ความแตกต่างผู้ประกอบการจด Vat และไม่จด Vat
ความแตกต่างผู้ประกอบการจด Vat และไม่จด Vat

ผู้ประกอบการที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) หมายถึง

  • ผู้ประกอบกิจการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการเป็นปกติธุระ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี ให้ยื่นคำขอจดทะเบียนภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีรายรับเกิน
  • ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ มีแผนงานการดำเนินการ และเตรียมการประกอบกิจการซื้อสินค้า หรือรับบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้างโรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือการติดตั้งเครื่องจักร เป็นต้น
  • ผู้ประกอบการอยู่ต่างประเทศ และได้ขายสินค้าหรือให้บริการในประเทศไทย โดยมีตัวแทนอยู่ในประเทศไทย ให้ตัวแทนเป็นผู้มีหน้าที่รับผิดชอบการจดทะเบียน

อ่าาาา ใครเข้าข่ายต้องจด Vat บ้างนะ ลองเช็กกันค่า
ส่วนผู้ประกอบการที่ไม่ได้จด VAT นั้น คือ คนที่ไม่ได้เข้าเงื่อนไขข้างบน หรือคนที่เข้าเงื่อนไขแล้ว แต่ยังแอบๆ ไม่ได้ไปจดทะเบียน VAT กับสรรพากร

เรามาดูตารางเปรียบเทียบกันว่า การจด Vat และไม่ได้จด Vat แตกต่างกันยังไงบ้างในแต่ละหัวข้อ

จด Vatไม่จด Vat
หน้าที่ออกใบกำกับภาษีออกใบกำกับภาษีได้ไม่มีสิทธิออกใบกำกับภาษี
หน้าที่ยื่นแบบต้องยื่นภาษี ภ.พ.30ไม่ต้องยื่นภาษี ภ.พ.30
ตั้งราคาขายราคาขายต้องคิด Vat ลูกค้าราคาขายไม่ต้องคิด Vat
การเคลมภาษีซื้อเคลมภาษีได้ภาษีซื้อเคลมไม่ได้แต่เป็นต้นทุนสินค้าได้


วิธีการตรวจสอบรายชื่อ Vat ผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนแล้ว

คนที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วจะมีลิสรายชื่ออยู่ในระบบของสรรพากรค่ะ

เพื่อนๆ เคยได้ยินคำว่าภาษีซื้อต้องห้าม หรือใบกำกับภาษีปลอมกันไหมคะ

สาเหตุที่เราต้องเช็กก่อนว่า กิจการที่เรากำลังจะทำการค้าด้วยจด Vat จริงไหม เพื่อยืนยันว่า ใบกำกับภาษีทีเราได้มา ไม่ใช่ใบกำกับภาษีปลอมแน่นะ เพราะถ้าเป็นใบกำกับภาษีปลอม เราก็จะพลอยโดนโทษไปด้วยค่ะ

มาลองดูวิธีการเช็กรายชื่อ Vat กัน การตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ Vat ก็เป็นผลประโยชน์อย่างหนึ่ง ซึ่งทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เข้าเว็บไซต์ ตามลิงก์นี้ https://vsreg.rd.go.th/VATINFOWSWeb/jsp/V001.jsp

เช็กรายชื่อ Vat
เช็กรายชื่อ Vat

กรอกข้อมูลบริษัท เลือกช่องใดช่องหนึ่ง คือ เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หรือชื่อผู้ประกอบการ ฯ
หากมีข้อมูลตามที่เรากรอก แสดงว่าเขาเป็น ผู้ประกอบการ Vat แล้วจ้า สบายใจได้เลย

ทำไมต้องตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ Vat

การเช็กว่ารายชื่อผู้ประกอบการ Vat ก็เพราะเราต้องใช้ใบกำกับภาษีซื้อ เป็นเอกสารแนบยื่นรายงานภาษีซื้อประจำเดือน
ก่อนที่จะอนุมัติการซื้อสินค้า หรือบริการ หากว่ากิจการนั้นบอกว่าสามารถออกใบกำกับภาษีให้ได้ ก็อย่าเพิ่งเชื่อง่ายๆ (เพราะสมัยนี้มิจฉาชีพเยอะเหลือเกิน) ให้เพื่อนๆ ลองเช็กตามวิธีที่เราแนะนำไปด้วยนะคะ เพราะถ้าหากเราเอาใบกำกับภาษีปลอมไปเคลมภาษีซื้อล่ะก็มีโทษถึงขั้นจำคุกตามรายละเอียดด้านล่างนี้เลย

ออกใบกำกับภาษีปลอม โดนโทษอะไรบ้าง

ใบกำกับภาษีปลอม หมายถึง การจัดทำใบกำกับภาษีขึ้นมาโดยไม่มีสิทธิ์ออกหรือไม่ได้ซื้อสินค้าหรือบริการจริงๆ เพื่อที่จะนำภาษีนั้นมาใช้เครดิตภาษีในกิจการ นี่มันเจตนาทุจริตชัดๆ ดังนั้นโทษก็จะหนักหน่อย

  • เจตนานำใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี
  • เจตนาหลีกเลี่ยง หรือพยายาม หลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ออกใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือ ใบลดหนี้ โดยไม่มีสิทธิที่จะออก

บทกำหนดโทษ : จำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000.- บาท ถึง 200,000.- บาท

มาตรา 90/4 (3) แห่งประมวลรัษฎากร

ผลลัพธ์ของการไม่ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ Vat ให้ดี

ไม่เช็กสิทธิ์รายชื่อ Vat ก่อน มีผลอะไรกับกิจการบ้าง
ไม่เช็กสิทธิ์รายชื่อ Vat ก่อน มีผลอะไรกับกิจการบ้าง

ผลของการไม่ตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการ Vat ให้ดี ที่ชัดเจนที่สุดเลย คือ เมื่อทำงานกับบริษัทแอบอ้าง Vat เราจะไม่สามารถนำภาษีซื้อมาใช่สิทธิได้นะ เพราะใบกำกับภาษีปลอม ถือเป็นภาษีซื้อต้องห้ามจ้า
เผลอๆ ถ้าโชคดีโดนสรรพากรตรวจสอบ อาจมีภาษีย้อนหลังพร้อมเบี้ยปรับเงินเพิ่ม ฉะนั้นตรวจสอบก่อนดีกว่า วิธีการตรวจสอบง่ายนิดเดียว…เพียงไม่กี่คลิกเองจ้า…

บทสรุป

ผู้ประกอบการที่ไม่จด Vat ไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ เมื่อทำธุรกรรมด้วย ผู้ซื้อสินค้า (แม้จะได้ใบกำกับภาษีมา) ก็ไม่สามารถนำภาษีซื้อไปหักลบภาษีขายได้ (หรือเคลมภาษีได้) แถมยังมีโทษอีกมากมายตามมาค่ะ

ฉะนั้น เราจึงควรตรวจสอบก่อนว่าคู่ค้าแอบอ้างหรือไม่ เพื่อลดปัญหาอันน่าปวดหัวในอนาคตค่ะ

และสำหรับใครที่อยากเข้าใจเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม มากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมเก็บ CPD ได้ด้วย แนะนำลงเรียนคอร์สนี้ได้เลยค่า: รู้จักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งระบบ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @cpdacademy

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า