วิธีการลดภาษีเงินได้นิติบุคคลวิธีหนึ่งก็คือ การมีค่าใช้จ่ายที่ลดหย่อนภาษีได้เพิ่มค่ะ และสรรพากรไม่มีทางเชื่อเราแน่นอนถ้าเราไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินออกไปมาประกอบ ในบทความนี้สำคัญมากๆ เลยสำหรับนักบัญชีที่ต้องคอยเก็บเอกสารและบันทึกบัญชีเพื่อลดหย่อนภาษีให้เจ้าของธุรกิจ เพราะเราต้องเช็กให้มั่นใจว่าได้รับใบเสร็จ ลดหย่อนภาษีมาครบถ้วน และถูกต้องตามหลักกฎหมายนะ
สิ่งที่เราต้องเช็กหากต้องการใช้ใบเสร็จนั้นลดหย่อนภาษีมีอะไรบ้าง เราลองไปดูพร้อมๆ กันเลย
1. ลดหย่อนภาษีคืออะไร
การลดหย่อนภาษี คือ กฎหมายกำหนดรายการ ที่สามารถนำไปหักออกจากเงินได้สุทธิทางภาษี ตามเงื่อนไขของแต่ละประเภท ซึ่งมีหลากหลายประเภท
พูดง่ายๆ ก็คือ เราไม่สามารถเอาค่าใช้จ่ายทุกตัวมาลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติม ยกเว้นเสียแต่ว่ามีกฎหมายกำหนดไว้ เช่น ค่าบริจาคให้โรงเรียนลดหย่อนได้ 2 เท่า หรือซื้อชุดตรวจ ATK ลดหย่อนภาษีได้ 1.5 เท่า เป็นต้น
ค่าลดหย่อนที่เราพบบ่อยๆ หรือเรื่องต้องรู้เกี่ยวกับค่าลดหย่อนอะไรบ้าง ไปดูกันได้ที่นี่เลยค่ะ
2. ใบเสร็จรับเงินคืออะไร ต่างกับใบกำกับภาษีอย่างไร
ใบเสร็จรับเงิน หมายถึง เอกสารหลักฐานประกอบที่แสดงถึงว่า ผู้ซื้อ ได้ทำการซื้อสินค้าหรือบริการ และได้ดำเนินการจ่ายชำระค่าสินค้าแล้วจริง รายละเอียดจะถูกแสดงในใบเสร็จรับเงิน
ใบกำกับภาษี หมายถึง เอกสารหลักฐานที่ยืนยันว่าผู้ซื้อสินค้าได้จ่ายชำระค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในบางครั้งใบเสร็จรับเงินนั้นออกมาพร้อมๆ กับใบกำกับภาษี โดยเขียนว่า “ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี” และ Supplier ที่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีได้ต้องเป็น Supplier ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้นนะ
3. ต้องเช็กอะไรบ้างในใบกำกับภาษี
กรณีที่ผู้ขายสินค้าเค้าจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
หลักฐานที่ใช้ลดหย่อนภาษีได้ คือ ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ตามมาตรา 86/4 (ใบกำกับภาษีที่มีข้อความระบุชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ) เว้นแต่สินค้าหรือบริการดังต่อไปนี้ ที่ซื้อมาจากผู้ประกอบการที่ไม่เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ต้องมีหลักฐานใบรับ ซึ่งมีรายการอย่างน้อยตามมาตรา 105 ทวิ พร้อมระบุชื่อ และนามสกุลของผู้มีเงินได้
ใบกำกับภาษีที่มีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) คำว่า “ใบกำกับภาษี” ในที่ที่เห็นได้เด่นชัด
(2) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ออกใบกำกับภาษี
(3) ชื่อ ที่อยู่ ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
(4) หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี และหมายเลขลำดับของเล่ม (ถ้ามี)
(5) ชื่อ ชนิด ประเภท ปริมาณ และมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ
(6) จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่คำนวณจากมูลค่าของสินค้าหรือของบริการ โดยให้แยกออกจากมูลค่าของสินค้าและหรือของบริการให้ชัดแจ้ง
(7) วัน เดือน ปี ที่ออกใบกำกับภาษี
(8) ข้อความอื่นที่อธิบดีกำหนด เช่น คำว่าเอกสารออกเป็นชุด สำเนาใบกำกับภาษี ฯลฯ

4. ต้องเช็กอะไรบ้างในใบเสร็จรับเงิน
ใบเสร็จรับเงิน ที่สามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนได้เช่นกัน กรณีซื้อสินค้าจากผู้ขายที่ไม่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใบเสร็จรับเงินต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขาย
(2) ชื่อหรือยี่ห้อของผู้ออกใบรับ
(3) เลขลำดับของเล่มและของใบรับ
(4) วันเดือนปีที่ออกใบรับ
(5) จำนวนเงินที่รับ
(6) ชนิด ชื่อ จำนวนและราคาสินค้า ในกรณีการขายหรือให้เช่าซื้อสินค้า เฉพาะชนิดที่มีราคาตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป

3. ตัวอย่างใบเสร็จ ลดหย่อนภาษีที่ใช้สิทธิได้
กรณีไปซื้อของตามร้านค้า เราต้องเช็คว่าได้รับใบเสร็จ/ใบกำกับภาษีข้อมูลครบถ้วนตามตัวอย่างนี้ไหม

กรณีบริจาคเงิน เอกสารหลักฐานที่ได้ไม่เรียกว่าใบเสร็จ แต่จะเรียกว่าใบอนุโมทนาบัตรแบบนี้ แต่ข้อมูลข้างในก็ควรจะมีให้ครบถ้วนเช่นกัน

เมื่อเพื่อนๆนำค่าลดหย่อนต่างๆ มาดูเอกสารหลักฐานแล้วว่า มีข้อมูลตามเช็กลิสที่ได้เรียนรู้ อย่าลืมนำใบเสร็จ ใบกำกับภาษี หรือเอกสารอื่นๆ เช่น หนังสือขอบคุณจากการบริจาค หรือใบอนุโมทนาบัตร แยกแฟ้มออกมาเพื่อประกอบเป็นรายการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลเพื่อยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 นะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาและมั่นใจว่าเราลดหย่อนภาษีได้แน่นอน
อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
สอบถามได้ที่นี่ Line: @cpdacademy