ความรู้บัญชี

5 รายงานทางบัญชีมีอะไรบ้าง ที่นักบัญชีควรรู้

รายงานทางบัญชีมีอะไรบ้าง ที่นักบัญชีควรรู้

นักบัญชีส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่า แค่ทำบัญชีดีๆ บันทึกรายการไม่ผิดพลาด แค่นี้ก็พอแล้วใช่ไหม แต่ในความเป็นจริงแล้ว เจ้าของธุรกิจไม่เข้าใจหรอกว่าเราบันทึกบัญชีอะไรไปบ้าง สิ่งที่พวกเค้าเข้าใจได้ง่ายสุด คือ การอ่านรายงานทางบัญชี เพื่อที่จะเรียนรู้ว่าธุรกิจไปได้ดีหรือไม่ และยังมีส่วนไหนที่พวกเค้าต้องไปแก้ไขปรับปรุงบ้าง

รายงานทางบัญชี คืออะไร?

รายงานทางบัญชี คือ รายงานที่สรุปข้อมูลทางบัญชีในอดีตและปัจจุบันออกมาในรูปแบบต่างๆ เพื่อช่วยให้เจ้าของธุรกิจคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคต และวางแผนอนาคตของธุรกิจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น

ในความเป็นจริงแล้ว รายงานทางบัญชีมีมากมายหลากหลายรายงาน ถ้าจะให้พูดถึงทั้งหมดคงจะไม่ไหว เพราะนักบัญชีทั้งหลายจะหมดแรงอ่านเสียก่อน

ในวันนี้เราจึงขอยกตัวอย่างสัก 5 รายงานที่เราหาข้อมูลมาแล้วว่ามันสำคัญสุดๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจ SMEs ซึ่งนักบัญชีต้องทำรายงานนี้ให้เป็น และสอนให้เจ้าของธุรกิจอ่านรายงานเหล่านี้ด้วยค่ะ

ถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวเราลองไปดูรายงานที่ว่า ว่ามันมีอะไรบ้าง และแต่ละรายงานสำคัญยังไง?

1. งบกำไรขาดทุน

งบการเงินก็คือ รายงานทางบัญชีอย่างนึงนะคะ และงบการเงินสุดฮิตไม่ว่าคนทำธุรกิจประเภทไหนก็ต้องรู้จักคือ งบกำไรขาดทุน

งบนี้เป็นงบที่บอกความสามารถของเจ้าของธุรกิจว่าบริหารธุรกิจได้ดีมากน้อยขนาดไหน โดยยึดจากสมการที่ว่า

รายได้ – ค่าใช้จ่าย = กำไร หรือขาดทุน

ยิ่งรายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายมาก ก็ยิ่งมีกำไรเยอะ แปลว่าเจ้าของธุรกิจบริหารงานได้เก่ง แต่เมื่อไรรายได้น้อยลงกว่าค่าใช้จ่าย เมื่อนั้น นั่งนับวันรอธุรกิจเจ๊งเพราะว่าขาดทุนนั่นเอง

งบการเงินนี้มักจะทำในช่วงเวลาหนึ่งๆ เช่น

  • สิ้นเดือน
  • สิ้นไตรมาส
  • สิ้นปี

และถ้าอยากรู้ว่าในช่วงเวลาปัจจุบันเราบริหารธุรกิจได้ดีขนาดไหน ให้เอาไปเทียบกับ 2 สิ่งนี้

  1. ตัวเองในอดีต
  2. คู่แข่ง

แล้วเจ้าของธุรกิจจะพบว่า โอโห้ งบกำไรขาดทุนสั้นๆ แค่นี้ ก็บอกอะไรได้มากมายเหลือเกิน

ในส่วนนักบัญชีเอง ก็มีหน้าที่จัดทำงบกำไรขาดทุน และต้องรู้เกี่ยวกับองค์ประกอบทั้งหมดในงบกำไรขาดทุน ไม่ว่าจะเป็น

  • รายได้หลัก
  • รายได้อื่น
  • ต้นทุนขาย
  • ค่าใช้จ่ายในการขาย
  • ค่าใช้จ่ายในการบริหาร
  • ดอกเบี้ยจ่าย
  • ภาษีเงินได้

และอื่นๆ อีกมากมายแล้วแต่ว่าเจ้าของธุรกิจอยากมองเห็นไอเท็มไหนเป็นพิเศษหรือไม่

2. งบแสดงฐานะการเงิน

งบแสดงฐานะการเงิน หรือ งบดุล เป็นอีกรายงานนึงที่ขาดไม่ได้ เพราะว่าแค่งบกำไรขาดทุนจะอาจจะบอกข้อมูลผลประกอบการกำไร/ขาดทุนของธุรกิจได้เท่านั้น แต่ว่างบแสดงฐานะการเงินจะช่วยบอกสถานะของธุรกิจในมุมมองที่ต่างกัน

งบแสดงฐานะการเงิน จะบอกสถานะการเงินของธุรกิจว่าตอนนี้มีสินทรัพย์ หนี้สิน อยู่เท่าใด และเหลือส่วนของเจ้าของไว้เท่าใดบ้าง ส่วนของเจ้าของเองยิ่งมีมากยิ่งดี ยิ่งมีน้อยก็ยิ่งไม่ดี

สมการพื้นฐานของงบแสดงฐานะการเงิน คือ

สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ

ถ้านักบัญชีคนไหนทำงบนี้แล้ว ฝั่งซ้ายไม่เท่ากับขวา แปลว่าต้องกลับไปเช็คตัวเลขใหม่เลยเพราะว่าสมการผิดแน่นอนค่ะ

สิ่งที่ยากสำหรับงบการนี้ คือ การที่นักบัญชีต้องคอยอธิบายเจ้าของธุรกิจว่า

  • สินทรัพย์คืออะไร
  • หนี้สินคืออะไร
  • ส่วนของเจ้าของคืออะไร

เพราะคำศัพท์เหล่านี้เป็นคำศัพท์ใหม่สำหรับเจ้าของธุรกิจ ถ้ายิ่งไม่มีพื้นฐานทางบัญชีด้วยแล้วยิ่งอธิบายยากขึ้นไปอีก

3. รายงานอายุลูกหนี้การค้า

รายงานอายุลูกหนี้ เป็นรายงานในส่วนของสินทรัพย์ประเภทลูกหนี้ที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะแสดงจำนวนลูกหนี้คงค้างของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่งแล้ว ยังแสดงอายุของลูกหนี้แต่ละรายว่าค้างนานมากน้อยขนาดไหนด้วย

ยกตัวอย่างเช่น

บริษัท A มีลูกหนี้ 100 ราย ถ้าเช็คแค่จำนวนเงินคงค้างเฉยๆ พบว่ามีจำนวนเงิน 15 ล้านบาท แต่ถ้าอยากรู้ว่าลูกหนี้นี้มีคุณภาพไหม ให้เช็คที่ อายุลูกหนี้ ว่าใน 15 ล้านบาทนี้ เป็นหนี้ที่ค้างนานกว่า 30 วันจำนวนเท่าใด และจัดลำดับการค้างนานแบบนี้

  • ค้างนานกว่า 30 วัน
  • ค้างนาน 30-60 วัน
  • ค้างนาน 60-90 วัน
  • ค้างนาน 90 วันขึ้นไป

นักบัญชีต้องช่วยเจ้าของธุรกิจมอร์นิเตอร์ลูกหนี้ที่ค้างนาน เพื่อที่จะได้ติดตามทวงถามให้พวกเค้าชำระหนี้ได้ทันเวลาขึ้น

ฉะนั้น รายงานลูกหนี้จึงถือว่าเป็นรายงานที่สำคัญมากๆ ไม่แพ้รายงานอื่นๆ เลยค่ะ

4. รายงานอายุเจ้าหนี้การค้า

รายงานเจ้าหนี้การค้า เป็นรายงานในส่วนของหนี้สิน ที่โฟกัสเฉพาะเจ้าหนี้ที่เกิดจากการซื้อสินค้า หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ รายงานเจ้าหนี้การค้าจึงเป็นรายงานที่ระบุข้อมูลสำคัญดังต่อไปนี้

  • ชื่อเจ้าหนี้
  • มูลค้าหนี้สิน
  • วันครบกำหนดชำระ
  • อายุหนี้ว่าค้างชำระนานเท่าใด

นักบัญชีต้องทำรายงานอายุเจ้าหนี้การค้าเป็นประจำอย่างน้อยทุกๆ เดือนเพื่อให้มั่นใจว่า ยอดเจ้าหนี้คงเหลือนั้นเป็นยอดที่ถูกต้องและเจ้าของธุรกิจเองก็สามารถวางแผนการจ่ายชำระหนี้ได้อย่างถูกต้องเช่นกันค่ะ

5. รายงานสินค้าคงเหลือ

รายงานสินค้าคงเหลือ เป็นรายงานที่สำคัญมากๆ สำหรับธุรกิจที่มีสต๊อกสินค้า อย่างเช่น ธุรกิจผลิต ธุรกิจซื้อมาขายไป หรือธุรกิจบริการบางประเภท ซึ่งรายงานสินค้าคงเหลือจะบอกยอดสินค้า ณ วันใดวันหนึ่ง

ประโยชน์ของรายงานสินค้าคงเหลือ จะทำให้เจ้าของธุรกิจเช็คได้ว่า

  • สินค้าทั้งหมดมีอะไรบ้าง
  • สินค้ามีราคาต้นทุนเท่าใด
  • ตรวจนับสินค้าจริง แล้วตรงกับรายงานสินค้าคงเหลือไหม

นอกจากนี้แล้ว นักบัญชีมักจะใช้รายงานสินค้าคงเหลือนี้ ต่อยอดในการบันทึกค่าเผื่อการลดมูลค่าของสินค้าที่เสื่อมราคา ล้าสมัยตอนปิดบัญชีได้อีกด้วย

โดยส่วนใหญ่แล้วฝ่ายที่ดูแลเรื่องสินค้าคงเหลือ จะเป็นฝ่ายคลัง แต่ทุกๆ การเข้าของสินค้ามักจะมาจากการซื้อ ที่บันทึกโดยแผนกบัญชี และการออกของสินค้าจะมาจากการขาย ที่บันทึกโดยแผนกบัญชี

ฉะนั้นแล้ว รายงานนี้ก็เป็นส่วนนึงของงานบัญชีที่นักบัญชีต้องสื่อสารกับทีมคลังสินค้าให้เข้าใจด้วยเช่นกันค่ะ

สรุป

สรุปแล้ว 5 รายงานสำคัญทางบัญชีที่นักบัญชีทั้งหลายพลาดไม่ได้ เพราะนี่คืองานที่ต้องนำเสนอกับผู้บริหารหรือว่าเจ้าของธุรกิจ ถ้าขาดรายงานอันใดอันหนึ่งไป อาจทำให้เจ้าของธุรกิจมองสถานการณ์ธุรกิจตัวเองไม่ทะลุปรุโปร่ง และในส่วนของนักบัญชีเองถ้ายังทำรายงานเหล่านี้ไม่เป็น อาจถึงคราวที่เจ้าของธุรกิจหานักบัญชีใหม่มาทำหน้าที่นี้แทน ฉะนั้น อย่าลืมทำความเข้าใจและเรียนรู้วิธีจัดทำรายงานต่างๆ ให้ชำนาญด้วยนะคะ เพราะทุกๆ รายงานมีความสำคัญกับการปิดงบการเงินประจำเดือนและประจำปีทั้งหมดเลยค่ะ

ไม่อยากพลาดบทความดีๆ ด้านบัญชี-ภาษี และโปรโมชั่นพิเศษ กดสมัครรับข่าวสารที่นี่

ขอบคุณข้อมูลจาก :

The 5 Most Important Accounting Reports for Your Small Business

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า