ถ้าพูดถึง “งานบัญชี” หลายคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยาก” และ “หนัก” มาก เพราะหน้าที่ของนักบัญชีคือการเข้าไปผจญภัยในโลกของตัวเลขและข้อมูลมากมาย แม้เงินเดือนเยอะ แต่ก็ต้องแลกกับความกดดัน และความรับผิดชอบที่สูง แถมยังต้องทำงานอย่างละเอียด และรอบคอบภายใต้เวลาที่บีบคั้นเข้ามาอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้นักบัญชีตาดำๆ อย่างเรา รับมืองานหนักเกินไปจนหมดไฟ และก็หมดใจไปเลยได้นะคะ
เพราะฉะนั้น ใครที่กำลังเผชิญกับงานหนัก และไม่อยากรู้สึกหมดไฟ จนไม่อยากทำงานตรงหน้าล่ะก็ บทความนี้มี 3 เคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยให้นักบัญชี รับมืองานหนักได้โดยที่สุขภาพจิตไม่พัง มาฝากนักบัญชีค่ะ
งานบัญชี มีหน้าที่ทำอะไรบ้าง?
นักบัญชีจะเป็นอีกตำแหน่งหนึ่งที่สำคัญ และมักจะมีในทุก ๆ บริษัท เพราะเจ้าของธุรกิจก็อยากจะรู้ผลประกอบการของตัวเองว่า กำไรหรือขาดทุน จริงไหมคะ?
โดยส่วนใหญ่ งานบัญชีจะทำหน้าที่ดูแลบัญชีค่ะ ไม่ว่าจะทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี วางระบบบัญชี คาดสถานการณ์การเงินบริษัท รวมถึงจัดการเรื่องภาษีประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทด้วยค่ะ
หน้าที่สำคัญของนักบัญชีมีอะไรบ้าง?
- บันทึกข้อมูลทางการเงินของบริษัทตามระบบของบัญชี
- ทำบัญชีรายรับ รายจ่ายของบริษัท
- ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารบัญชี
- ทำงบดุล และรวบรวมรายงานทางการเงินอื่น ๆ ภายในเวลาที่กำหนด
- จัดแสดงรายรับ – รายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
- ทำรายงานปิดงบการเงินประจำปีให้กับบริษัท
ทำไมงานบัญชีมักจะทำให้เครียด นักบัญชีรับมืองานหนัก?
ด้วยเนื้องานบัญชีที่ต้องดูแล จัดการ และตรวจสอบการเงิน จึงต้องใช้แรงกาย และแรงใจอย่างสูง มักทำให้นักบัญชี รับมืองานหนักเกินไป และทำให้เกิดความเครียดอยู่บ่อย ๆ เพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อความกดดันและภาระงานของนักบัญชีค่ะ
ภาระงานที่มาก
นักบัญชีต้องรับผิดชอบงานที่หลากหลายและมีจำนวนงานมากแทบจะล้นโต๊ะเลยทีเดียวค่ะ เช่น การบันทึกข้อมูลรายรับ – รายจ่าย การทำงบ การทำรายงานทางการเงิน การตรวจสอบและจัดการข้อมูลทางการเงิน และงานอื่น ๆ
ความกดดันจากเวลา
งานบัญชีมักมีเส้นตายที่เข้มงวด โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ต้องปิดงบหรือเตรียมรายงานทางการเงิน ทำให้เกิดความเครียดสะสม อาจทำให้นักบัญชี รับมืองานหนักได้
ความรับผิดชอบต่อความผิดพลาด
ความผิดพลาดในงานบัญชีอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทอย่างรุนแรง เพราะฉะนั้น นักบัญชีต้องทำงานอย่างระมัดระวัง และมีความละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นค่ะ
การแข่งขันในสายงาน
สายงานบัญชีมีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้สมัครจำนวนมาก จึงต้องหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ และพัฒนาทักษะด้านบัญชีให้เชี่ยวชาญขึ้นอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มความสามารถและประสิทธิภาพในการทำงานอย่างต่อเนื่อง แต่ระหว่างนั้นอาจมีความกดดัน และความเครียดเกิดขึ้นได้
ด้วยปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เกิดความเครียดขึ้น ซึ่งจะกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจของนักบัญชี หากรู้ตัวช้า และยังคงทำงานภายใต้สภาวะนั้นต่อไปนาน ๆ อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากความเครียด และอาจจะถึงขั้นรุนแรงเป็นภาวะซึมเศร้าได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ เมื่อนักบัญชี รับมืองานหนักแล้วเกิดความเครียด จะทำให้สมองของเราทำงานแบบตื้อ ๆ มึน ๆ และส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง คุณภาพของงานก็จะลดลงตามมาด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น หากใครยังต้องการทำงานในสายงานนี้ต่อไป ก็ต้องรับมือกับงานหนัก พร้อมทั้งพัฒนาตัวเองอยู่เสมอนะคะ : อ่านเพิ่มเติม แนวทางการพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นนักบัญชีที่เก่งขึ้น

เคล็ดลับจัดการกับความเครียด สำหรับนักบัญชีรับมืองานหนัก
1. เซตเวลาทำงาน เวลาพักให้เป็นระบบ
ถ้านักบัญชี รับมืองานหนักไม่ได้จัดเวลาทำงานแต่ละอย่างให้เป็นระบบ แค่คิดก็สยองแล้วค่ะ เพราะจะทำให้งานไม่เสร็จเป็นชิ้นเป็นอัน ต้องวาร์ปไปทำงาน A ก่อน พองาน B เข้าก็วางงาน A ไปทำงาน B ระหว่างนั้นงาน C เข้ามาอีก ก็ต้องพักงานสองชิ้นนี้ไปทำงาน C การทำแบบนี้จะกินเวลาพักงานของเรา ทำให้เวลาเลิกงานขยับออกไป และก็จะมีเวลาพักผ่อนน้อยลง
เพราะฉะนั้น ต้องเซตเวลาทำงานแต่ละชิ้นให้ชัดเจน เพื่อให้สามารถทำงานนั้นได้ทันเวลา ให้จบเป็นชิ้น ๆ ไป และเมื่อถึงเวลาพักก็ควรจะวางงานทั้งหมดลงแล้วไปพักผ่อนก่อน จะได้ไม่เครียดจนเกินไปนั่นเองค่ะ

2. จบงานในเวลาเท่านั้น
เมื่ออยู่นอกเวลางาน ทุกคนควรพักผ่อน และใช้ชีวิตส่วนตัวให้เต็มที่นะคะ แต่ถ้าอยู่ในเวลางานเมื่อไหร่ ต้องเริ่มงานให้ตรงเวลา พยายามจัดสรรและควบคุมงานให้อยู่ในกรอบเวลาทำงานให้ได้ จากนั้น เคลียร์งานทั้งหมดให้เต็มที่ (อาจจะมีพักเล่นมือถือบ้าง สัก 15 นาที) สุดท้ายเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ควรหยุดทำงาน และค่อยไปเคลียร์ต่อในวันถัดไป วิธีนี้จะช่วยให้นักบัญชีรับมืองานหนักได้น้อยลง และยังสามารถลดโอกาสการเป็นภาวะหมดไฟได้อีกด้วยนะคะ
ช่วงแรกอาจจะติดขัดบ้าง ยังจัดสรรกับงานตรงหน้าที่เยอะมาก ๆ ไม่ลงตัว อาจจะนำวิธีจัดลำดับความสำคัญของงานมาช่วย ก็ทำให้นักบัญชี รับมืองานหนักเห็นภาพรวมของการทำงานมากขึ้น เห็นถึงระยะการส่ง และไม่สับสนเรื่องลำดับงานอีกต่อไปค่ะ
ยกตัวอย่างสถานการณ์ จากข้อข้างต้นนะคะ เช่น งาน A สำคัญอันดับ 1 ต้องส่งวันนี้ก็ควรจะทำก่อนให้เสร็จ งาน B ก็เป็นวันสำคัญแต่ส่งในอีก 2 วัน ค่อยทำหลังเคลียร์งาน A เสร็จก็ได้ ส่วนงาน C ไม่ใช่งานที่สำคัญ และเร่งรีบ อาจจะกระจายให้เพื่อนร่วมทีมช่วยทำแทนเราได้

3. งานล้นมือ ต้องกล้าพูด
ถ้านักบัญชีรับมืองานหนักเกินไปจนงานล้นมือเกินกำลังตัวเองแล้ว ไม่แนะนำให้แบกรับปัญหานี้ไว้คนเดียวนะคะ ควรจะรายงานให้หัวหน้างานรับทราบ เพื่อให้หัวหน้า หรือผู้ที่ดูแลภาพรวมของงานได้เห็นปัญหา และร่วมกันหาทางช่วยเหลือ รวมถึงแก้ไขปัญหากันต่อไป ก็จะช่วยลดความเครียดที่กลัวจะทำงานทั้งหมดนั้นไม่ทันได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
การบอกปัญหาให้กับหัวหน้า ไม่เพียงจะช่วยลดภาระงาน และความเครียดให้น้อยลงแล้ว ยังช่วยรักษาผลประโยชน์ของทางบริษัทได้อีกด้วยนะคะ เพราะถ้าฝืนทำงานแบบเกินกำลัง มีโอกาสทำงานผิดพลาดได้ง่ายกว่าปกติ และกระทบต่อบริษัทแน่นอน

สรุป
งานบัญชีเป็นอีกหนึ่งงานที่มีความยาก และมีเนื้องานที่ต้องรับผิดชอบเยอะ อาจทำให้นักบัญชีรับมืองานหนักมากเกินไป ส่งผลให้เกิดความเครียดในการทำงาน หากรู้ตัวช้า และยังคงฝืนทำในสภาวะนั้นต่อไป จะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งกายและใจ มีโอกาสพัฒนากลายเป็นภาวะซึมเศร้าได้
เพราะฉะนั้น เราจึงต้องมีวิธีรับมือกับความเครียดจากการทำงานหนัก ใจดีกับตัวเองบ้าง เพื่อทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุข โดยที่สุขภาพจิตไม่พังนั่นเองค่ะ
และสุดท้ายนี้สำหรับใครที่จิตใจพังเกินจะเยียวยา อย่าลืมนะคะว่าเรายังสามารถขอความช่วยเหลือไปยังสายด่วนกรมสุขภาพจิต เพื่อปรึกษาปัญหาได้เสมอที่เบอร์ 1323 นะคะ
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @cpdacademy