ต้องยอมรับว่าในปัจจุบันการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นได้รับความนิยม เป็นอย่างมากในหมู่นักลงทุนทั้งในต่างประเทศ และในประเทศไทยโดยเฉพาะการซื้อขาย คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) หรือที่นักลงทุนชอบเรียกกันว่า “สกุลเงินดิจิทัล” ที่มั่นใจว่าคนไทยหลายๆ คนก็มีติดไม้ติดมือกันอยู่แน่นอน
นอกจากผลตอบแทนจากการเทรดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) สิ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือ ภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องจ่ายจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรน ว่ามันมีอย่างไรบ้าง
ซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี Cryptocurrency เสียภาษีอย่างไร
คริปโทเคอร์เรนซี คืออะไร
คริปโทเคอร์เรนซี ในทางกฎหมาย คือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” ชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะหน่วยข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีความตั้งใจที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ หรือแลกเปลี่ยนระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลด้วยกันเอง แม้ว่าในทางกฎหมายจะเขียนว่า “คริปโท เคอร์เรนซี” ใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าบริการหรือสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นก็ได้ แต่คำว่า “สื่อกลาง” ในที่นี้เป็นสื่อกลางในลักษณะคล้าย “ระบบการค้าต่างตอบแทน” (Barter Trade) หรือของแลกของ
ภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง
เราจะขอแบ่งเป็น 2 กรณีตามนี้ คือ
1. กรณีผู้ขาย
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 40(4)(ฌ), มาตรา 48 เมื่อเราขายคริปโทเคอร์เรนซี แล้วอาจมีทั้งกำไรหรือขาดทุนจากการขายคริปโทเคอร์เรนซีก็ได้
สมมติว่าถ้าเกิดกำไรขึ้น คือ ราคาขายเป็นเงินได้ เกินกว่าที่ลงทุนถือว่าส่วนเกิน กำไรจากการขายในส่วนนี้ถือเป็นเงินได้พึงประเมินจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี ที่นักลงทุนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากร
ตัวอย่างเช่น : นาย A. ซื้อคริปโตมาในราคา 120 บาท ต่อมา นาย A. ขายคริปโตให้แก่นาย B. ในราคา 150 บาท เท่ากับว่า นาย A มีกำ ไรจากการขายคริปโต เพราะราคาขายเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุนเท่ากับ 150 ลบด้วย 120 เท่ากับ 30 บาท ถือเป็นเงินได้พึงประเมินจากผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนคริปโทเคอร์เรนซี
2. กรณีผู้ซื้อ
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 50(2) (ฉ) หักภาษี 15%
เมื่อผู้ซื้อได้ซื้อคริปโทเคอร์เรนซีจากผู้ขาย หรือนักลงทุนแล้ว ประมวลรัษฎากร ได้กำหนด หน้าที่ของผู้ซื้อไว้กล่าวคือมีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 ของเงินได้ คำว่า “เงินได้” ในที่นี้ หมายถึง กำไรจากการขายคริปโทเคอร์เรนซี ที่ผู้ขายได้รับนั่นเอง ดังนั้น หากการขายคริปโทเคอร์เรนซี ดังกล่าวมีกำไรแล้วผู้ซื้อคริปโทเคอร์เรนซีต้องมีหน้าที่ หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15.0 นำส่งสรรพากร
สำหรับการถือครองยังไม่ได้ซื้อขาย
นักลงทุนที่มีขายคริปโทเคอร์เรนซีในครอบครอง เช่น โทเคนต่าง ๆ แม้จะไม่ได้ซื้อ-ขายเหรียญเพื่อทำกำไรก็จริง แต่ถ้าเหรียญที่เราถืออยู่มีส่วนแบ่งกำไร หรือมีผลประโยชน์เพิ่มเติม เช่น ผู้ออกเหรียญโทเคนดิจิทัลให้เงินปันผลกับนักลงทุน เงินปันผลส่วนนี้ก็จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตรา 15% ก่อนจ่ายให้เราเช่นกัน
โดยรวมแล้วถ้าใครคิดว่าการเทรดคริปโทเคอร์เรนซีจะไม่มีภาระภาษีมาเกี่ยวข้องเป็นความเชื่อที่ผิดมหันต์เลย เพราะว่ามีภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีหัก ณ ที่จ่ายมาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญภาษีพวกนี้ไม่ใช่ Final Tax หมายถึง แม้จะโดนหักไว้ 15% อย่างไรก็ต้องนำมายื่นภาษีบุคคลธรรมดาตอนปลายปีอยู่ดี
ส่วนในแง่ที่ว่าทางปฏิบัติจะทำอย่างไรเกี่ยวกับการยื่นภาษี เราคงต้องรอดู Feedback ในอนาคต เพราะเท่าที่ศึกษาทุกวันนี้ การจัดการเป็นไปได้ยากเหลือเกินสำหรับประเทศไทย
ศึกษาบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเรื่องภาษีได้ที่ อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลที่ต้องรู้ อัพเดตล่าสุด!.
อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
สอบถามได้ที่นี่ Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y