นักบัญชีมือใหม่หลายคนอาจจะกำลังเจอปัญหาในที่ทำงาน อย่างการปรับตัวและการทำงานร่วมกับรุ่นพี่และผู้ใหญ่มากประสบการณ์ในที่ทำงาน หากเป็นผู้ที่จบใหม่แล้วหล่ะก็อาจจะค่อนข้างวิตกกังวลกับเรื่องนี้อย่างมาก ด้วยความที่การทำงานต้องเจอสังคมและผู้คนที่หลากหลายอีกทั้งยังต่างวัยมากกว่าการพบเจอผู้คนในช่วงวัยเรียน สาเหตุเหล่านี้อาจจะทำให้รู้สึกไม่เป็นตัวเองและเกรงกลัวว่าหากทำอะไรผิดพลาดจะถูกต่อว่าหรือตำหนิแรงๆได้ บางคนถึงขั้นเครียดหนักในช่วงปรับตัวในที่ทำงานเลยทีเดียว
ต้องบอกว่าการวิตกกังกวล หรือความตื่นเต้นในช่วงเริ่มงานแรกๆถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แน่นอนว่าต้องหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนไปเจอสังคมใหม่ๆ ไม่มีเพื่อนรายล้อมแบบเดิมจึงเกิดภาวะเหล่านี้ได้ อย่างแรกควรพยายามเข้าใจตัวเองและคนรอบข้างให้มาก การเข้าใจตัวเองในที่นี่คือ ต้องรู้ดีว่า โดยปกติเราเป็นคนอย่างไรในบริบทการทำงาน เช่น หากเป็นคนที่เข้าใจยาก ควรเตรียมสมุดจดงานหรือขออนุญาตผู้ที่กำลังสอนงานทำการอัดเสียงเพื่อนำไปฟังระหว่างที่ทำงานด้วยตัวเอง หรือหากเป็นคนที่ไม่ละเอียดรอบคอบ ควรเผื่อเวลาในการทำงานในส่วนของการตรวจทานเพิ่มเข้าไปด้วย เพื่อให้งานถูกตรวจสอบก่อนนำส่งไปยังปลายทางที่ได้รับมอบหมาย ต่อมาคือการสังเกตผู้คนรอบตัว ด้วยงานสายบัญชีนั้นปริมาณการทำงานต่อวันค่อนข้างเยอะ ทำให้คนในทีมหรือผู้บังคับบัญชีมักจะมีงานให้ทำตลอดวันอย่างแน่นหนา หากต้องการที่จะสอบถามงาน หรือช่วยตรวจงาน ควรดูจังหวะและช่วงเวลาที่เขาเหล่านั้นสามารถแนะนำได้ ทางที่ดีควรทำแผนแต่ละวันส่งให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องว่า วันไหนที่สามารถประชุมร่วมกันได้ วันไหนที่สามารถช่วยตรวจงานได้ หรือวันไหนที่เป็นวันสำหรับเทรนด์ความรู้ใหม่ๆ หากเรามีการเตรียมแผนวันเหล่านี้ก็จะช่วยให้มีระบบระเบียนในการทำงานและเรียนรู้งานได้อย่างดี
ทำไมต้องปรับตัวให้เร็ว
การปรับตัวในการทำงานนั้นจำเป็นอย่างมาก ยิ่งในช่วงโปรโมทการทำงานแล้วนั่นยิ่งถือว่าสำคัญไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่นๆ หากไม่สามารถเข้ากับวัฒนธรรมองค์กร สิ่งแวดล้อม หรือผู้ร่วมงานได้ก็จะทำให้บรรยากาศการทำงานไม่มีความสุขรวมไปถึงสร้างความอึดอัดใจให้ระหว่างทำงานอีกด้วย ฉะนั้นแล้วหากปรับตัวได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี การปรับตัวยังมีข้อดีมากกว่านั้นตรงที่หากปรับตัวทุกวิถีทางแล้วแต่ไม่สามารถทำงานหรือร่วมงานกับทีมได้จริงๆ การยื่นใบสมัครไปยังที่ใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร นั่นต้องหมายความว่าเราต้องทำหน้าที่ให้เต็มที่สุดความสามารถแล้วจริงๆ และในระหว่างการปรับตัวในการทำงานควรพัฒนาศักยภาพให้เพรียบพร้อมอยู่เสมอ เพราะโอกาสที่ดีมักจะมาพร้อมกับคนที่มีคุณสมบัติที่พร้อมมากกว่า รวมไปถึงผู้ที่ศักยภาพที่ดีตามที่แต่ละองค์กรได้กำหนดเงื่อนไขเอาไว้นั่นเอง
4 เทคนิครวมงานกับรุ่นพี่อย่างมืออาชีพ
1. ใฝ่รู้ใฝ่เรียน
เรื่องใฝ่รู้ใฝ่เรียนถือเป็นเรื่องที่ควรมีติดตัวทุกๆคน เพราะการที่เราหมั่นแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลาจะช่วยให้เราเป็นคนที่มีความรู้อย่างรอบด้าน เอาตัวรอดได้เมื่อยามขับขัน ความรู้ที่เรามีไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาชีพหรือการทำงานส่วนอื่นๆ หากนำมาปรับใช้ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมจะส่งผลดีต่อตนเองไม่น้อย กรณีหากเป็นในองค์กร เมื่อเรามีข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องหากผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ อย่างผู้ร่วมงานหรือรุ่นพี่ในองค์กรเราจะเป็นคนที่สามารถหยิบยื่นความช่วยเหลือนี้ได้ และจะเป็นคนที่ทุกๆคนนึกถึงหากต้องการข้อมูลความรู้จากเรา ส่วนนี้จะช่วยเรื่องมนุษยสัมพันธ์และการขับเคลื่อนองค์กรได้ดีอีกด้วย
2. เป็นทั้งผู้ถามและผู้ฟังที่ดี
การทำงานร่วมกันผู้อื่นไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยก็ควรที่จะเป็นทั้งผู้ถามและผู้ฟังที่ดี บางคนที่กลัวว่าจะเข้ากับรุ่นพี่หรือผู้ใหญ่ในทีมไม่ได้ สิ่งพื้นฐานที่สามารถช่วยให้เป็นคนที่น่าเข้าหาและเป็นคนที่วางตัวได้ดีคือการพูดและฟังอย่างตั้งใจและแสดงออกอย่างเหมาะสมนั่นเอง ถือว่าเป็นเรื่องที่ปฎิบัติได้ง่ายและทำได้ทุกคน
3. กล้าแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
หลายคนไม่กล้าแสดงความคิดเห็นเพราะเกรงว่าจะทำให้รุ่นพี่ ผู้ใหญ่หรือคนในทีมมองไม่ดี บ้างก็คิดว่าการแสดงออกคือการล้ำเส้นมากเกินไป แต่ความเป็นจริงแล้วข้อนี้ต้องเปิดใจจึงจะทำให้การแสดงความคิดเห็นมีประโยชน์มากที่สุด ทั้งในแง่ตัวเราและรุ่นพี่ในที่ทำงานคนนั้นๆ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจะทำให้ได้งานออกมาดีมากกว่า เพราะได้ขัดเกลางานและถูกตรวจสอบ อ้างอิง พัฒนา ปรับปรุงแก้ไขจนได้เวอร์ชั่นที่ดีที่สุดจากความคิดทุกๆคนมาแล้วนั่นเอง ฉะนั้นแล้วหากมีโอกาสและถูกเปิดโอกาสให้ได้แสดงความเห็นหรือถกเถียงก็ควรทำอย่างเหมาะสมและมีข้อมูลที่ถูกต้องเสมอเพื่อลดโอกาสที่จะเข้าใจผิด สติและการใช้คำพูดอย่างระมัดระวังจะเป็นตัวช่วยที่ดีในข้อนี้
4. กล้าแสดงความสามารถ
คนจบใหม่หลายคนที่มีฝีมือและพัฒนาตัวเองมาถึงขั้นที่ว่าพร้อมลุยงานอย่างมากแล้ว ก็อาจจะต้องรู้สึกอึดอัดใจหากอยากแสดงความสามารถที่ร่ำเรียนและได้ผ่านการฝึกงานมาอย่างเข้มข้นเพราะกลัวว่ารุ่นพี่จะมองไม่ดี บ้างก็มีที่ทำดีจนเกินหน้าตารุ่นพี่แล้วเกิดการเขม่นกันในที่ทำงาน ตรงนี้ต้องบอกว่าคงขึ้นอยู่กับทัศนคติส่วนบุคคลมากกว่าในการแสดงมุมมองต่อเรื่องนี้ รุ่นพี่บางคนดีใจที่มีคนรุ่นใหม่ฝีมือดีเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีม บ้างก็แอบกังวลไปเองว่าคนจบใหม่อาจจะมาเลื่อยขาเก้าอี้ตัวเอง หากอยากจะป้องกันความเข้าใจผิดในเรื่องราวๆต่างๆแบบนี้ เมื่อได้รับโอกาสและพื้นที่ให้แสดงความสามารถ ต้องการแสดงออกให้ถูกที่ถูกทางและถูกช่วงเวลา อย่าหักหน้า หรือวิจารณ์งานของผู้อื่นด้วยถ้อยคำรุนแรง แม้แต่การเข้าร่วมประชุมหากได้รับโอกาสให้แสดงความคิดเห็นหรือแสดงความสามารถในสถานการณ์ที่เกี่ยวข้อง ควรใช้กิริยาที่สุภาพและแสดงถึงความตั้งใจทำงานมากกว่าการแสดงความเห็นเพื่อล้อเลียน ตำหนิ พูดเชิงเหน็บแนม เปรียบเทียบด้วยถ้อยคำบั่นทอนใจ หรือลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ด้วยกัน คือสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง จะเป็นการดีหากทุกๆฝ่ายให้เกียรติซึ่งกันและกัน เพื่อพัฒนางานให้ดีตามนโยบายที่องค์กรได้ตั้งไว้
อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
สอบถามได้ที่นี่ Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y