ภาษี

ค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่มคำนวณยังไง

ค่าปรับ ภาษีมูลค่าเพิ่มคำนวณยังไง

เจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม บางครั้งอาจลืมยื่นแบบเสียภาษี หรือว่าบางทียื่นแล้วแต่ล่าช้า แบบนี้ต้องท่องไว้ในใจเลยว่า เสียค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่มแบบฉ่ำๆ แน่นอน ซึ่งสำหรับค่าปรับแต่ละตัวก็จะมีวิธีการคิดแตกต่างกันค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจ เรื่องค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่มกันว่ามันคืออะไร และคำนวณอย่างไรกันนะ ในบทความนี้เลย

เนื้อหา ซ่อน
4 ค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม คำนวณยังไง

ค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม คืออะไร?

ค่าปรับ VAT หรือ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นเงินที่ผู้ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มต้องชำระเพิ่มเติม เมื่อกระทำผิด หรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่มผิดพลาดตามที่ประมวลกฎหมายรัษฎากรกำหนด เช่น การชำระภาษีช้า การไม่ยื่นภาษี การชำระภาษีไม่ครบ เป็นต้นค่ะ

การกระทำที่ทำให้เสียภาษีผิดพลาดมีหลายกรณี จึงนำไปสู่การเกิดค่าปรับประเภทต่าง ๆ โดยจะขออธิบายในหัวข้อถัดไปค่ะ

ค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม มีกี่ประเภท

สำหรับค่าปรับหรือเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมให้สรรพากร กรณีเราไม่ยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือยื่นผิดนั้น มีหลายแบบค่ะ โดยจะขอแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้

1. ค่าปรับอาญา

ค่าปรับอาญา เป็นจำนวนเงินสำหรับการลงโทษทางอาญาแก่ผู้ที่กระทำความผิดตามกฎหมาย รวมทั้งภาษีเงินได้ของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยในทางของ VAT จะใช้เมื่อเกิดกรณีไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี และยื่นแบบเกินเวลาที่กำหนดค่ะ

ค่าปรับอาญา คืออะไร
ค่าปรับอาญา คืออะไร

2. เบี้ยปรับ

เบี้ยปรับ เป็นมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้ประกอบการที่เสียภาษีไม่ถูกต้อง หรือไม่นำส่งภาษี โดยกฎหมายจะกำหนดให้ผู้ที่ไม่ยื่นภาษีภายในกำหนดจะโดนปรับ 2 เท่าของภาษีที่ต้องเสีย ส่วนกรณียื่นภาษีในเวลาแต่ชำระไม่ครบ จะถูกปรับเท่าตัวของภาษีที่ต้องเสียค่ะ

เบี้ยปรับ คืออะไร
เบี้ยปรับ คืออะไร

3. เงินเพิ่ม

เงินเพิ่ม เป็นดอกเบี้ยที่ปรับกับผู้ประกอบการที่ชำระภาษีช้า หรือไม่ชำระภาษีภายในเวลาที่กำหนดตามประมวลกฎหมายรัษฎากรในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนของภาษีที่ต้องชำระ ในขณะเดียวกัน ถ้าไม่มีภาษีต้องชำระ จะไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มค่ะ

เงินเพิ่ม คืออะไร
เงินเพิ่ม คืออะไร

ทั้งนี้ ค่าปรับทางอาญา เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ถือเป็นรายจ่ายต้องห้ามที่จะไม่นำมาใช้ในการคำนวณกำไรสุทธิตามที่ประมวลกฎหมายรัษฎากรระบุไว้ นั่นหมายความว่า แม้จะเสียเงินจ่ายค่าปรับไปก็ไม่สามารถลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ค่ะ

และ ธุรกิจที่กระทำผิดจะต้องรับโทษตามกฎหมาย โดยจะอธิบายในหัวข้อถัดไปนี้ค่ะ

บทลงโทษของภาษีมูลค่าเพิ่ม

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ขอปูเรื่องก่อนนะคะว่า การเสียภาษี VAT จะต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแบบ ภ.พ.30 พร้อมกับชำระภาษีเป็นรายเดือน ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปค่ะ (หรือ 23 ของเดือนถัดไปในกรณีที่ยื่นแบบออนไลน์)

ดังนั้น ถ้าผู้ที่ต้องเสียภาษีคนไหนที่ไม่ได้ชำระภาษีภายในเวลาดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย ก็จะโดนค่าปรับนั่นเองค่ะ โดยจะมีบทลงโทษของภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องทำความเข้าใจ ได้แก่

1. ค่าปรับอาญา ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ในส่วนของค่าปรับอาญานะคะ ถ้าเป็นกรณีของการยื่นแบบเพิ่มเติมเกินกำหนด วันที่ 15 แบบกระดาษหรือ 23 แบบออนไลน์ อันนี้ต้องเสียค่าปรับค่ะ

  • ถ้ายื่นแบบ ภ.พ.30 เกินกำหนดไปแล้วไม่เกิน 7 วัน จะถูกปรับ 300 บาท
  • ถ้ายื่นแบบ ภ.พ.30 เกินกำหนดไปแล้วกว่า 7 วัน จะถูกปรับ 500 บาท

2. เบี้ยปรับ

อย่างที่ทุกคนเข้าใจค่ะว่า เบี้ยปรับเป็นเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มเติมจากให้กับกรมสรรพากร เพื่อชดเชยภาษีที่ขาดหายไปจากการชำระไม่ตรงเวลา หรือจ่ายไม่ครบค่ะ เบี้ยปรับจะมาจากการคูณอัตราเบี้ยปรับที่แปรผันตรงตามระยะเวลาที่ผ่านไป (ยิ่งนาน อัตรายิ่งเพิ่ม) และคูณด้วยมูลค่าปรับ x เท่าอีกทีค่ะ โดยจะขอแบ่งเป็นกรณีต่าง ๆ ได้แก่

  • กรณียื่นแบบฯ เพิ่มเติม เช่น อยู่ในเวลาแต่ชำระไม่ครบ หรือเลยเวลาไปแล้ว แต่มายื่นทีหลัง เบี้ยปรับจะถูกคำนวณในอัตรา 2% – 20% ของภาษีที่ต้องจ่าย แล้ว x 1
  • กรณีไม่ได้ยื่นแบบฯ ในเวลาที่กำหนด จะถูกคิดเบี้ยปรับอยู่ที่ 2% – 20% แล้วก็ x 2

3. เงินเพิ่ม

เงินเพิ่ม เป็นดอกเบี้ยที่ผู้ต้องเสีย VAT จะถูกปรับ เพราะที่ชำระภาษีช้า หรือไม่ชำระภาษีตามกำหนด ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะทำชำระภาษีผิดในเคสไหน ก็ต้องโดนปรับ 15% ต่อเดือนของภาษีที่ต้องชำระทั้งสิ้นค่ะ ส่วนกรณีที่ไม่มีภาษีที่ต้องจ่าย ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนั่นเองค่ะ

ถ้าใครรู้ตัวช้า ก็จะยิ่งมีเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น แถมมีเงินเพิ่มแพงขึ้นอีกต่างหาก เพราะค่าปรับจะเพิ่มสูงขึ้นตอนเมื่อเวลาผ่านไปค่ะ ฉะนั้น เช็กการจ่ายภาษีให้ดี รู้ตัวให้ทัน จะได้ไม่โดนค่าปรับแพงนะคะ

บทลงโทษค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม
บทลงโทษค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม

ค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม คำนวณยังไง

จากตัวอย่างการคำนวณค่าปรับของกรมสรรพากร เราขอแบ่งวิธีการคำนวณค่าปรับ VAT ตามกรณีต่าง ๆ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการยื่นแบบ ภ.พ.30 และการคำนวณภาษีที่ถูกต้อง โดยมีตัวอย่างการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้ค่ะ

1. กรณีไม่ได้ยื่นแบบ ภ.พ.30

สำหรับกรณีนี้จะมีเงินเพิ่มและค่าปรับกรณีที่ “มีภาษีที่ต้องชำระ” เท่านั้น

1.1 การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีภาษีต้องชำระ

ภาษีขาย (บาท)        1,000
ภาษีซื้อ  750
ภาษีที่ต้องชำระ          250
เงินเพิ่ม มาตรา 89/1250 X 1.5% ต่อเดือน
เบี้ยปรับ มาตรา 89(2)250 X 2 เท่า

1.2 การคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มมีภาษีชำระเกิน

ภาษีขาย (บาท)1,000
ภาษีซื้อ1,750
ภาษีที่ต้องชำระ 0
ภาษีที่ชำระไว้เกิน (750)
เงินเพิ่ม มาตรา 89/1ไม่มี
เบี้ยปรับ มาตรา 89(2)                         ไม่มี

2. กรณียื่นแบบ ภ.พ. 30 เมื่อพ้นกำหนดเวลา ยื่นภาษีไปแล้ว และได้ยื่นแบบใหม่อีกรอบ หรือเจ้าพนักงานประเมินตรวจสอบพบความผิด

2.1 แบบ ภ.พ. 30 ฉบับปกติมีภาษีต้องชำระและการคำนวณที่ถูกต้องมีภาษีต้องชำระ

แบบ ภ.พ. 30 ความถูกต้องผลต่าง
ภาษีขาย (บาท)        1,0001,600    600ขายขาด
ภาษีซื้อ    750400     (350)ซื้อเกิน
ภาษีที่ต้องชำระ2501,200    950คลาดเคลื่อน
ภาษีชำระไว้เกินยกมา (70)       (70)       0
ภาษีต้องชำระสุทธิ1801,130    950
เงินเพิ่ม มาตรา 89/1950 x 1.5% ต่อเดือน
เบี้ยปรับ มาตรา 89(2)950 x 2 เท่า
มาตรา 89(4) ภาษีขายขาด600 x 1 เท่า
มาตรา 89(4) ภาษีซื้อเกิน350 x 1 เท่า

ให้เปรียบเทียบเบี้ยปรับและเรียกเก็บจำนวนที่ได้เงินมากกว่า คือ มาตรา 89(2) จำนวน 1,900 บาท

ส่วนกรณีอื่น ๆ ในข้อ 2 นี้ ทุกคนสามารถเข้าไปทำความเข้าใจตัวอย่างการคำนวณค่าปรับ ภาษีมูลค่าเพิ่มเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรนะคะ [คลิกเลยที่นี่]

3. กรณียื่นแบบ ภ.พ. 30 ภายในกำหนดเวลา แต่กรอกตัวเลขผิดพลาดและไม่ได้ชำระภาษีมูลค่าเพิ่มให้ถูกต้องครบถ้วน

แบบ ภ.พ. 30 ความถูกต้องผลต่าง
ภาษีขาย (บาท)2,5002,5000
ภาษีซื้อ2,0002,0000
ภาษีที่ต้องชำระ400500100
ภาษีชำระไว้เกินยกมา(20)(20)0
ภาษีต้องชำระสุทธิ3804800
เงินเพิ่ม มาตรา 89/1480 x 1.5% ต่อเดือน
เบี้ยปรับ มาตรา 89(2)ไม่มี
มาตรา 89(4)ไม่มี

4. กรณียื่นแบบ ภ.พ. 30 ภายในกำหนดเวลาและชำระภาษีไปแล้ว ต่อมามีการยื่นแบบ ภ.พ. 30 เพิ่มเติมภายในกำหนดเวลาโดยชำระภาษีพร้อมการยื่นแบบเพิ่มเติม

แบบ ภ.พ. 30 ความถูกต้องผลต่าง
ภาษีขาย (บาท)1,5002,400900ขายขาด
ภาษีซื้อ1,000600(400)ซื้อเกิน
ภาษีที่ต้องชำระ5001,8001,300คลาดเคลื่อน
ภาษีชำระไว้เกินยกมา(70)(70)0
ภาษีต้องชำระสุทธิ4301,7301,300
เงินเพิ่ม มาตรา 89/1ไม่มี
เบี้ยปรับ มาตรา 89(3)             ไม่มี
มาตรา 89(4)     ไม่มี

5. กรณียื่นแบบ ภ.พ. 30 ภายในกำหนดเวลาและชำระภาษีไปแล้ว ต่อมามีการยื่นแบบ ภ.พ. 30 เพิ่มเติมภายในกำหนดเวลา โดยไม่ได้ชำระภาษีพร้อมการยื่นแบบเพิ่มเติม

แบบ ภ.พ. 30 ความถูกต้องผลต่าง
ภาษีขาย (บาท)        1,5002,400900ขายขาด
ภาษีซื้อ    1,000600(400)ซื้อเกิน
ภาษีที่ต้องชำระ          5001,8001,300คลาดเคลื่อน
ภาษีชำระไว้เกินยกมา(70)(70)0
ภาษีต้องชำระสุทธิ4301,7301,300
เงินเพิ่ม มาตรา 89/11,300 x 1.5% ต่อเดือน
เบี้ยปรับ มาตรา 89(3)ไม่มี
มาตรา 89(4)ไม่มี

แต่ทั้งนี้ บทความจะขอยกตัวอย่างการคำนวณค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่มตามกรณีต่าง ๆ เพียงแค่บางส่วนเท่านั้นนะคะ ทุกคนสามารถเข้าไปศึกษา และอ่านทำความเข้าใจเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์กรมสรรพากรได้เลยค่ะ

สรุป

จะเห็นได้ว่า ผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มทั้งหลาย มักจะเจอปัญหาลืมยื่นภาษี VAT บ้าง หรือยื่นไปแล้วแต่ไม่ถูกต้องบ้าง ซึ่งจะนำไปสู่การโดนชาร์จค่าปรับ VAT ภาษีมูลค่าเพิ่มประเภทต่าง ๆ ได้แก่ ค่าปรับอาญา เบี้ยปรับ และเงินเพิ่ม ที่อาจทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นได้นั่นเองค่ะ

เพราะฉะนั้น เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสียค่าปรับภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่บ่อย ๆ ควรเช็ก Deadline ภาษี และแบบ ภ.พ.30 ให้ถูกต้อง และทำการยื่นต่อกรมสรรพากรภายในกำหนดจะดีที่สุดเลยจ้า

สำหรับใครที่อยากเข้าใจเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม มากขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมเก็บ CPD ได้ด้วย แนะนำลงเรียนคอร์สนี้ได้เลย รู้จักภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ทั้งระบบ

banner

แนะนำบทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นภาษี (คลิกที่นี่)

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Line: @cpdacademy

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า