ทุกคนที่ทำงานด้านบัญชีมาอาจจะคุ้นเคยกับการบันทึกบัญชีเดบิตเครดิต แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่างานบัญชีในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ด้วย AI ไม่แพ้กับงานไหนๆ เลยค่ะ ฉะนั้น นอกจากจะบันทึกบัญชีเป็นแล้ว การวิเคราะห์งบการเงินให้เป็นถือว่าเป็นสกิลนึงที่นักบัญชีต้องห้ามพลาด แล้วการวิเคราะห์งบคืออะไร วิเคราะห์ยากหรือไม่ วันนี้ CPD Academy จะสรุปให้ทุกคนฟังแบบครบจบในที่เดียว อ่านเสร็จแล้วทำตามได้เลยค่ะ
วิเคราะห์งบการเงินคืออะไร
การวิเคราะห์งบการเงิน คือ กระบวนการในการนำข้อมูลทางงานเงินจากงบการเงินมาวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ที่เหมาะสม เพื่อวัดความสามารถในการดำเนินของกิจการในรูปแบบต่างๆ
Investpedia.com

เช่น การทำกำไร ความมั่นคง สภาพคล่อง ซึ่งผู้ที่วิเคราะห์งบอาจมีวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์แตกต่างกัน เช่น
- เจ้าของธุรกิจ วิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจ
- ธนาคาร วิเคราะห์สภาพคล่องและความสามารถในการจ่ายชำระหนี้ก่อนให้สินเชื่อ
- นักลงทุน วิเคราะห์ก่อนซื้อหุ้นว่าจะได้รับผลตอบแทนในอนาคตดีไหม
และด้วยความที่แต่ละคนมีวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์แตกต่างกัน เครื่องมือที่ใช้ในการวิเคราะห์งบก็อาจจะแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์นั่นเอง
ต้องเข้าใจอะไรบ้างก่อนวิเคราะห์งบ
ไม่ใช่งบทุกงบจะเอามาวิเคราะห์เปรียบเทียบกันได้ ก่อนที่เราจะวิเคราะห์งบจะต้องทำความเข้าใจ 3 เรื่องหลักๆ ดังต่อไปนี้
1. ความสัมพันธ์ในงบการเงิน
งบการเงินแต่ละงบมีความสัมพันธ์กันอย่างคาดไม่ถึง แม้แต่นักบัญชีเองก็อาจจะบันทึกบัญชีจนเคยชินแล้วก็ลืมเรื่องเหล่านี้ไปก็ได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยว CPD Academy จะเล่าให้ทุกคนฟังแบบคร่าวๆ

- เงินทุน และ สินทรัพย์ เป็นจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ ซึ่งปกติจะตั้งธุรกิจเราก็ต้องเลือกว่าจะเอาเงินมาจากไหน ระหว่างเป็นหนี้หรือว่าใช้เงินตัวเอง เมื่อได้มาแล้วจึงมาลงทุนในสินทรัพย์ นี่จึงเป็นที่มาที่ไปของ งบแสดงฐานะการเงิน ที่บอกเราว่าสินทรัพย์ของธุรกิจเกิดมาจากหนี้เท่าไร และส่วนของเจ้าของเท่าใด
- สินทรัพย์ที่มีต้องสร้างรายได้ให้กับธุรกิจ และแน่นอนว่าเราต้องมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในระหว่างทางกว่าที่จะได้มาซึ่ง กำไร ความสัมพันธ์นี้แสดงให้เห็นในงบกำไรขาดทุน
- แม้ว่ากิจการมีกำไรจากการประกอบธุรกิจแล้ว แต่เป้าหมายอาจไม่หยุดแค่นั้น เพราะเราคาดหวังที่จะได้เงินสดกลับมาจากกำไรเหล่านั้นเช่นกัน นี่จึงเป็นที่มาที่ไปว่าทำไม เราต้องดูงบกระแสเงินสดด้วย
2. ความแตกต่างของมาตรฐานบัญชี
ก่อนวิเคราะห์งบในเชิงลึก นักบัญชีต้องเข้าใจความแตกต่างของมาตรฐานบัญชีที่บริษัทต่างๆใช้กันเสียก่อน เพราะในโลกใบนี้มาตรฐานการบัญชีที่ใช้กันมาจาก 2 ค่าย คือ
- IFRS (International Financial Report Standard) ที่บริษัทส่วนใหญ่ในโลกใช้กัน
- US GAAP เป็นมาตรฐานการบัญชีของบริษัทในประเทศอเมริกาใช้
ดังนั้น หากต้องการจะเปรียบเทียบระหว่างงบการเงิน Tiktok (จีน IFRS) และ Facebook (อเมริกา US GAAP) ก็อาจจะต้องมีการปรับปรุงให้อยู่บนบรรทัดฐานเดียวกันเสียก่อน
3. หน้ารายงานผู้ตรวจสอบบัญชี
หน้ารายงานผู้ตรวจสอบบัญชีนั้น มีทั้งหมด 4 รูปแบบใหญ่ ๆ คือ
- ไม่มีเงื่อนไข
- มีเงื่อนไข
- แบบไม่ถูกต้อง
- แบบไม่แสดงความเห็น

กรณีที่เราวิเคราะห์งบควรจะต้องเช็คหน้ารายงานผู้ตรวจสอบบัญชีเสียก่อนว่าเป็นหน้ารายงานแบบไหน เพราะว่าถ้าเป็นรายงานแบบไม่ถูกต้องหรือไม่แสดงความเห็น งบที่เราหยิบมาวิเคราะห์นั้นอาจจะไม่น่าเชื่อถือตั้งแต่แรกก็เป็นได้
โดยสรุปแล้วถ้าก่อนวิเคราะห์งบเราเห็นว่าข้อมูลใดไม่น่าเหมาะสมตามสมมติฐานของเราก็สามารถปรับปรุงรายการเพื่อให้เป็นไปตามที่สมมติฐานเอาไว้ได้ค่ะ
วิเคราะห์งบทำยังไงได้บ้าง
เล่ามาซะยาว ถ้าถึงตอนนี้ใครมีงบในมือแล้ว ปรับปรุงงบตามที่เราคิดว่าเหมาะสมแล้ว เราลองมาเรียนรู้วิธีวิเคราะห์งบรูปแบบต่างๆ ทั้ง 4 รูปแบบกันเลย

1. วิเคราะห์งบแนวตั้ง หรือวิเคราะห์องค์ประกอบ
วิธีวิเคราะห์งบแนวตั้งเป็นวิธีที่ง่ายมากๆ โดยเรากำหนดให้รายได้เป็นฐานสำหรับงบกำไรขาดทุน และสินทรัพย์รวมเป็นฐานสำหรับงบแสดงฐานะการเงิน จากนั้นลองคิด % สัดส่วนว่าแต่ละบรรทัดเนี่ยมีสัดส่วนเท่าใดถ้าเทียบกับรายได้ในงบกำไรขาดทุน และเทียบกับสินทรัพย์รวมในงบแสดงฐานะการเงินค่ะ
วิธีนี้เราเรียกภาษาอังกฤษง่ายๆ ว่าเป็นการวิเคราะห์แบบ Common Size เพื่อดูว่าส่วนใหญ่แล้วในงบประกอบด้วยรายการอะไรเป็นหลักบ้าง
ถ้าใครสงสัยว่าทำยังไง ลองดูภาพตัวอย่างการวิเคราะห์งบแนวตั้งของงบแสดงฐานะการเงินและงบกำไรขาดทุนได้ในอัลบั้มนี้เลยค่ะ



2. วิเคราะห์งบแนวนอน หรือ วิเคราะห์แนวโน้ม
การวิเคราะห์งบแนวนอนทำให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงหรือแนวโน้มของงบจากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งใช้ได้กับงบการเงินทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นงบกำไรขาดทุน หรืองบแสดงฐานะทางการเงิน
โดยเราสามารถเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงได้ 2 แบบ คือ
- แบบจำนวนเงิน
- แบบ % การเปลี่ยนแปลง
ในตัวอย่างนี้จะเป็นการวิเคราะห์ทั้งจำนวนเงินและ % การเปลี่ยนแปลงซึ่ง มีประโยชน์มากสำหรับการวิเคราะห์การเติบโตของธุรกิจค่ะ



3. วิเคราะห์อัตราส่วนทางการเงิน
เลื่อนขั้นความยากขึ้นมาอีกระดับนึงจากการวิเคราะห์แนวตั้งและแนวนอน เรามาเรียนรู้วิธีวิเคราะห์งบแบบที่ใช้อัตราส่วนทางการเงินในการเปรียบเทียบกันดู ซึ่งโดยทั่วไปแล้วธุรกิจ SMEs จะนิยมใช้อัตราส่วน 4 หมวดนี้

1) วิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไร
อัตราส่วนหมวดนี้เป็นการวิเคราะห์ว่าธุรกิจมีความสามารถทำกำไรได้ดีมากน้อยขนาดไหน เมือเทียบกับรายได้ หรือทรัพยากรที่ลงทุนไป
ลองดูตัวอย่างและวิเคราะห์ความสามารถในการทำกำไรอย่างง่ายได้ที่นี่
2) วิเคราะห์ความสามารถในการดำเนินงาน
จากที่เราเคยเล่าว่าจะทำธุรกิจก็ต้องมีการลงทุนในสินทรัพย์ อย่างเช่น ที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ หรือว่าสินค้าคงเหลือ ยิ่งเราลงทุนในสินทรัพย์มากเราก็คาดหวังจะสร้างรายได้จากสินทรัพย์เหล่านั้นได้มากเช่นกัน
การวิเคราะห์ความสามารถในการดำเนินงานจากอัตราส่วน 2 อัตราส่วนนี้ช่วยตอบโจทย์ได้ว่าสินทรัพย์ที่มีอยู่ใช้หารายได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ไหม
- อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์ = รายได้/สินทรัพย์
- อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร = รายได้/สินทรัพย์ถาวร
นอกจากนี้แล้วบางคนอาจจะลงทุนในสินค้าค่อนข้างสูงการวิเคราะห์สินค้าเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน : วิเคราะห์สินค้าทำอย่างไร 4 เรื่องที่นักบัญชีช่วยวิเคราะห์ได้
3) วิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน
การวิเคราะห์สภาพคล่องทางการเงิน เป็นอีกอัตราส่วนนึงที่ช่วยเช็คความอยู่รอดในอีก 12 เดือนข้างหน้าว่าธุรกิจจะอยู่ต่อได้หรือไม่ หรือว่าจะมีเงินสดพอจ่ายชำระหนี้สินหรือเปล่า
โดยปกติแล้วธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องมักจะมีเงินสดหรือสินทรัพย์ระยะสั้นหมุนเวียนไม่เพียงพอ ถ้าธุรกิจไหนมีอาการชักหน้าไม่ถึงหลัง แนะนำว่าลองเช็คสภาพคล่องกันเสียแต่เนิ่น ๆ ด้วยวิธีนี้ค่า : สภาพคล่องทางการเงินคืออะไร วิเคราะห์แบบไหนดี?
4) วิเคราะห์โครงสร้างเงินทุน (ความอยู่รอด)
อัตราส่วนกลุ่มสุดท้ายเป็นการวิเคราะห์ความอยู่รอดจากโครงสร้างเงินทุน ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบระหว่างหนี้สินกับส่วนของเจ้าของ และสินทรัพย์ ซึ่งจะบ่งบอกความอยู่รอดของธุรกิจในระยะยาวได้
ถ้าใครสนใจวิเคราะห์ความอยู่รอดลองศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่: โครงสร้างเงินทุนคืออะไร วิเคราะห์อย่างไร?
4. วิเคราะห์งบกระแสเงินสด
การวิเคราะห์งบกระแสเงินสด ชื่ออาจฟังดูยาก แต่จริงๆ แล้วเราเพียงต้องการวิเคราะห์ว่าตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมานั้น เรามีเงินเข้า-เงินออกจากกิจกรรมอะไรบ้าง แบ่งเป็น
- กิจกรรมดำเนินงาน
- กิจกรรมลงทุน
- กิจกรรมจัดหาเงิน
และความสัมพันธ์ระหว่างกำไรทางบัญชีกับเงินสดนั้นเป็นอย่างไร เราเช็คง่ายๆ ได้จากที่นี่ วิเคราะห์งบกระแสเงินสดทำอย่างไร มีอะไรต้องรู้บ้าง
ทั้งหมดนี้เป็นหลักการเบื้องต้นและเครื่องมือที่เราสามารถเลือกใช้ในการวิเคราะห์งบได้ค่ะ ซึ่งการคำนวณอาจจะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับนักบัญชี แต่ปัญหาที่เรามักพบเจอส่วนใหญ่ก็คือ เราไม่มั่นใจว่าจะแปลความหมายการวิเคราะห์นั้นอย่างไร เพราะการวิเคราะห์งบที่ดี ไม่ใช่แค่การคิดเลข แต่เป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์จากงบนึงไปอีกงบนึง เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจให้ได้

และสำหรับใครที่สงสัยว่าจะวิเคราะห์งบแบบไหนดี เรามีตัวอย่างการวิเคราะห์งบมาให้เพื่อนๆ ศึกษาต่อที่นี่นะคะ ตัวอย่างการวิเคราะห์อัตราส่วนการเงินแบบง่าย
หากอยากเรียนรู้เพิ่มเติม ลองศึกษารายละเอียดได้ที่ คอร์สรู้ทันธุรกิจด้วยการวิเคราะห์งบ
หากต้องการรับข่าวสารดีๆ อัพเดทความรู้บัญชี-ภาษี และโปรโมชั่นจากเรา สมัครรับข่าวสารได้ที่นี่