ความรู้บัญชี

ค่าเสื่อมราคารถยนต์ ข้อแตกต่างทางภาษีและบัญชีที่ต้องรู้

ค่าเสื่อมราคารถยนต์ ข้อแตกต่างทางบัญชีและภาษีที่ต้องรู้

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ จากที่เราเรียนมาในเรื่องของบัญชีและภาษีก็เป็นของคู่กันมานานแล้ว แต่ว่าคู่กันก็ใช่ว่าจะคิดเหมือนกันไปซะหมดนะคะ ยังมีแนวคิด วัตถุประสงค์ และการคำนวณหลายๆอย่างที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของบทความวันนี้เลยค่ะ ค่าเสื่อมราคารถยนต์ ที่เรามักจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เนื่องจากเรื่องนี้จะต้องไปเชื่อมโยงเกี่ยวการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปีด้วยนะ ก่อนที่จะไปดูว่าเกี่ยวข้องกับการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลปลายปียังไง เราไปดูข้อแตกต่างกันก่อนค่ะ

1. ค่าเสื่อมราคารถยนต์ทางบัญชี

ค่าเสื่อมราคาเป็นการทยอยรับรู้ค่าใช้จ่ายในบัญชีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ในงบกำไรขาดทุน การคำนวณค่าเสื่อมราคาต้องคำนึงถึงปัจจัยหลัก 3 สิ่งนี้ คือ

  • ราคาทุน
  • มีอายุการใช้งาน
  • ราคามูลค่าคงเหลือ หรือ ราคาซาก

และที่สำคัญค่าเสื่อมราคาต้องคิดอย่างมีระบบตลอดอายุการใช้งาน และ ทบทวนอายุการให้ประโยชน์อย่างสม่ำเสมอนะคะ

เพื่อนๆสามารถดูตัวอย่างการคำนวณราคาทุนบัญชี ที่ดิน อาคาร และ อุปกรณ์ ได้ที่บทความนี้เพิ่มเติมค่ะ
ประเด็นสำคัญ…ต้องรู้ ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ คืออะไร?

2. ค่าเสื่อมราคารถยนต์ทางภาษี

ทางภาษีจะเป็นเรื่องของกฏหมายที่กำหนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527

ได้กล่าวไว้ดังนี้

            มาตรา 5  การหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินประเภทรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบคนตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าต้นทุนเฉพาะส่วนที่ไม่เกินหนึ่งล้านบาท เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้ ให้หักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาจากมูลค่าต้นทุนทั้งหมด

(1) ทรัพย์สินซึ่งมีไว้ใช้ในกิจการให้เช่ารถยนต์ ทั้งนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะต้องไม่นำทรัพย์สินดังกล่าวไปใช้ในกิจการอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน                   
(2) ทรัพย์สินที่เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ใช้เพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะที่ได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตตามกฎหมายว่าด้วยภาษีสรรพสามิตทรัพย์สินตามวรรคหนึ่งต้องได้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป

พอเป็นภาษากฏหมายก็งงไปตามๆกันนะคะ

สรุปง่ายๆคือ ค่าเสื่อมราคารถยนต์ทางภาษี รถยนต์ประเภทรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบที่นั่ง ต้องใช้ราคาทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อมาคำนวณค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีค่ะ แต่ก็มีข้อยกเว้นตามข้อดังต่อไปนี้นะคะ

  • ธุรกิจที่ให้เช่ารถอยู่แล้ว ก็ถือว่ารถที่มีไว้เพื่อดำเนินกิจการ
  • รถยนต์ต้นแบบที่ใช้เพื่อการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ

ต่อไปเราไปดูกันค่ะ ว่าค่าเสื่อมราคาทางภาษี และค่าเสื่อมราคาทางบัญชี นอกจากจะมีการพิจารณา การวิเคราะห์รายการที่แตกต่างกันแล้วเนี่ย วิธีการคำนวณจะได้มูลค่าออกมาแตกต่างกันไหมนะ

3. ข้อแตกต่าง ทางภาษี VS ทางบัญชี

ตัวอย่าง บริษัทซื้อรถยนต์นั่งไม่เกิน 10 ที่นั่ง รายละเอียดมีดังต่อไปนี้

ราคาซื้อ1,250,000 บาท
ราคาซาก100,000 บาท
อายุการใช้งาน5 ปี
วันที่เริ่มต้นใช้งาน1 ม.ค. 65

ในปี 2565 กิจการมีค่าเสื่อมราคาเท่าไหร่

ค่าเสื่อมราคาทางภาษี

สูตรการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง
(ราคาทุน – ราคาซาก) / อายุการใช้งาน (ปี) = ค่าเสื่อมราคาต่อปี

ตามที่กฏหมายกำหนด รถยนต์ประเภทรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบที่นั่ง
ต้องใช้ราคาทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาท
จะได้เป็นวิธีคำนวณ ดังนี้

มูลค่าราคาทุนที่นำมาคำนวณค่าเสื่อมราคาทางภาษี(A)1,000,000
หัก ราคาซาก(B) 100,000
มูลค่าราคาทุน หลังหักราคาซาก A – B = (C) 900,000
หาร อายุการใช้งาน (ปี)(D) 5
ค่าเสื่อมราคาทางบัญชีC / D = (E) 180,000

สรุปคือ ในปี 2565 กิจการมีค่าเสื่อมราคาทางภาษี จำนวน 180,000 บาทต่อปีค่ะ

ค่าเสื่อมราคาทางบัญชี

สูตรการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง
(ราคาทุน – ราคาซาก) / อายุการใช้งาน (ปี) = ค่าเสื่อมราคาต่อปี

มูลค่าต้นทุนที่นำมาคำนวณค่าเสื่อมราคาทางบัญชี 1,250,000 บาท
จะได้เป็นวิธีคำนวณ ดังนี้ค่ะ

มูลค่าราคาทุนที่นำมาคำนวณค่าเสื่อมราคาทางบัญชี(A)1,250,000
หัก ราคาซาก(B) 100,000
มูลค่าราคาทุน หลังหักราคาซากA – B = (C)1,150,000
หาร อายุการใช้งาน (ปี)(D) 5
ค่าเสื่อมราคาทางบัญชีC / D = (E) 230,000

สรุปคือ ในปี 2565 กิจการมีค่าเสื่อมราคาทางบัญชี จำนวน 230,000 บาทต่อปีค่ะ

ตัวอย่างการคำนวณค่าเสื่อมราคารถยนต์
ค่าเสื่อมราคารถยนต์

สรุป คือ ข้อแตกต่างทางบัญชีและภาษีของค่าเสื่อมราคารถยนต์อยู่ที่ราคาทุนที่นำมาใช้คำนวณนั่นเอง จะสรุปข้อแตกต่างได้ที่ตารางนี้ (วิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาตามวิธีเส้นตรง)

ดูวิธีการคำนวณค่าเสื่อมราคาวิธีอื่นๆ ได้ที่บทความ ค่าเสื่อมราคาคืออะไร มีวิธีคิดแบบไหนบ้าง ทำไมนักบัญชีต้องรู้

ข้อมูลที่นำมาคำนวณคำนวณทางภาษีทางบัญชีข้อแตกต่าง
มูลค่าราคาทุนที่นำมาคำนวณค่าเสื่อมราคา(A)1,000,0001,250,000แตกต่าง
หัก ราคาซาก(B)100,000100,000ไม่แตกต่าง
มูลค่าราคาทุน หลังหักราคาซากA – B = (C)900,0001,150,000
หาร อายุการใช้งาน (ปี)(D)55ไม่แตกต่าง
ค่าเสื่อมราคาC / D = (E)180,000230,000แตกต่าง

เมื่อราคาทุนที่นำมาคำนวณค่าเสื่อมราคามีความแตกต่างกัน ก็ทำให้ค่าเสื่อมราคาที่คำนวณได้แตกต่างกันเช่นกัน
ที่ราคาทุนแตกต่างกันก็เนื่องจากทางบัญชี ยึดการรับรู้ราคาทุนตามหลักการของบัญชีค่ะ แต่ในส่วนของภาษีก็มีกฏหมาย พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยหักค่าสึกหรอ และค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527 ค่าเสื่อมราคารถยนต์ทางภาษี รถยนต์ประเภทรถยนต์นั่งหรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกินสิบที่นั่ง ต้องใช้ราคาทุน ไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อมาคำนวณค่าเสื่อมราคาในแต่ละปีค่ะ นี่แหละค่ะ คือสาเหตุที่ทำให้เกิดข้อแตกต่างทางภาษีและบัญชีอย่างเราจำเป็นที่ต้องรู้

#cpdacademy

อบรมบัญชีเก็บชั่วโมง CPD ออนไลน์ง่ายๆ ได้ที่บ้าน
Line: @cpdacademy หรือ https://lin.ee/36U1ks0Y

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า