ช่วงนี้หลายคนเริ่มเตรียมตัวสมัครงาน หางาน และเปลี่ยนงานใหม่ รวมถึงองค์กรต่างๆเอง ก็มีการเปิดรับกันหลายที่ ทางที่ดีหากมีเวลาในการเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์จะเป็นเรื่องดีกับตัวเราอย่างมาก เพราะในบางกรณีเราอาจจะถูกสัมภาษณ์ได้หลายครั้งกับหลายคนในองค์กร ทั้ง HR หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูง ความรู้ความเข้าใจในสายอาชีพและความพร้อมของตัวเอง จะส่งเสริมให้เรามีโอกาสได้งานสูงขึ้น
ก่อนที่เราจะเริ่มหางาน หรือกดสมัครงานลงไป เราควรจะต้องรู้และต้องเตรียมตัว ดังต่อไปนี้
1. ต้องรู้ลักษณะงานอย่างละเอียด
แน่นอนว่า การประกาศรับสมัครงานแต่ละที่นั้น มีความแตกต่างกัน ทั้งในส่วนของรายละเอียดงาน คุณสมบัติ ประสบการณ์ และสวัสดิการที่จะได้รับ บางประกาศมีข้อมูลอย่างละเอียดครบถ้วน บางประกาศอาจจะขาดข้อมูลสำคัญๆไป หากเราสนใจในงานนี้ ควรสอบถามอย่างละเอียดก่อนสมัคร หากไปทำงานแล้ว เนื้องานไม่ตรงกับสิ่งที่ประกาศ อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับหน้าที่ที่เรารับผิดชอบ และองค์กรได้
2. รู้จักองค์กรอย่างรอบด้าน
เราควรรู้จักองค์กรที่เราจะสมัครงานอย่างละเอียดรอบด้าน องค์กรนี้ทำงานเกี่ยวกับอะไร ตั้งอยู่ที่ไหน เปิดมาแล้วกี่ปี ยังคงดำเนินกิจการอยู่จริงหรือไม่ ผลประกอบการต่างๆเป็นอย่างไร เพื่อพิจารณาว่า เราอยากทำงานกับองค์นี้หรือไม่ รูปแบบขององค์กรใช่แบบที่เราอยากทำไหม สามารถพิจารณาองค์ประกอบส่วนนี้ได้เลย
3. ต้องมีขอบข่ายการทำงานที่แน่นอน
เนื้องานคือส่วนสำคัญ ยิ่งสายบัญชียิ่งต้องเช็คอย่างละเอียด เพราะบางครั้งหน้าที่ความรับผิดชอบของนักบัญชีมีให้ทำเกินขอบข่ายความเป็นนักบัญชี มีการควบตำแหน่งอื่นๆร่วมด้วย อย่างเช่น ตำแหน่งเลขา ตำแหน่งผู้จัดการ หรือตำแหน่งการจัดการต่างๆในองค์กร แม้แต่อาจจะรวมไปถึงตำแหน่งผู้ประสานงาน เป็นต้น เราควรสอบถามเนื้องานและขอบข่ายงานให้ชัดเจนว่า หน้าที่ความรับผิดชอบในเนื้องานและหน้าที่ของเราเป็นอย่างไร ทำงานร่วมกับใคร ทำร่วมกับทีม หรือทำคนเดียว ทั้งนี้ต้องรู้อย่างละเอียด หากได้ข้อมูลที่ไม่ชัดเจน และได้ค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่ากับหน้าที่ที่ได้รับ การปฏิเสธกับสิ่งที่ไม่ชัดเจนและดูไม่เป็นธรรม จะเป็นหนทางที่ดีกับตัวเรามากกว่า
4. ต้องสอดคล้องกับความสามารถของตนเอง
ประเมินความสามารถตัวเองว่าสามารถทำงาน และรับผิดชอบเนื้องานนี้ได้หรือไม่ ในกรณีของสายงานบัญชีก็มีเรื่องที่ท้าทายในความสามารถอีกเช่นกัน บางองค์กรมีการทำเอกสาร หรือสื่อสารภายในองค์กรเป็นภาษาอังกฤษ หากประกาศรับสมัครต้องการผู้ที่สามารถใช้ความรู้ภาษาอังกฤษในระดับที่ดี แต่เรามีทักษะภาษาอังกฤษในระดับปานกลาง อาจจะต้องพิจารณาและประเมินสถานการณ์คร่าวๆว่า หากมีเหตุการณ์ที่เราต้องเผชิญหน้าจริงๆ เราสามารถปฎิบัติหน้าที่ หรือรับผิดชอบหน้าที่ของเราได้เต็มประสิทธิภาพหรือไม่ การประเมินตนเองในลักษณะนี้จะช่วยให้เห็นศักยภาพและความสามารถของเรา ก่อนที่จะส่งสมัครงาน และอย่าลืมว่า ในยุคปัจจุบันมีการทดสอบการทำงาน มีโปรการทำงานด้วย ระหว่างช่วงโปรที่เราทำงานอยู่ หากเราทำงานได้ไม่เต็มที่ ทางองค์กรเองอาจจะไม่รับเราทำงานต่อในฐานะพนักงานประจำได้เช่นกัน
5. ผลประโยชน์และสวัสดิการต่างๆที่จะได้รับ
ข้อนี้เป็นอีกข้อที่เราจะพลาดไม่ได้ เพราะคือผลประโยชน์ของเรา หากองค์กรไม่ระบุ และไม่มีความชัดเจนให้สอบถามถึงข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันสังคม ประกันรูปแบบต่างๆที่องค์กรจะมอบให้ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โอที โบนัส การปรับเงินเดือน เป็นต้น แต่สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน ให้ยึดตามกฎหมายเป็นหลัก ว่าสิทธิประโยชน์ในฐานะแรงงาน ควรได้รับอะไรเป็นสวัสดิการพื้นฐานบ้าง จำเป็นต้องรักษาสิทธิ์ของตนเองให้ดีเสมอ หากพบความไม่ยุติธรรมในองค์กร ในขณะที่เราปฏิบัติหน้าที่ สามารถแจ้งหรือร้องเรียนกับกระทรวงแรงงานได้